Monday, September 28, 2009

Who am I ? ฉันคือใคร?

ฉันคือคนอีกฟากหนึ่งของสะพาน


Thursday, September 24, 2009

Chiangmai เชียงใหม่

      สองวันที่แล้วมีเหตุให้ฉันต้องไปเชียงใหม่ หลังจากที่รำ่เรียนจนจบหลักสูตรมัคคุเทศก์ทั่วไปภาษาต่างประเทศแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องไปขึ้นทะเบียนที่สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยวเชียงใหม่ ไปเชียงใหม่คราวนี้ฉันเลือกใช้บริการรถเมล์เขียว ป๒ ค่าบริการ ๑๓๒ บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓ ชั่วโมง  รถเมล์เขียวจากเชียงรายไปเชียงใหม่เด๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก ที่นั่งสะดวกสบายพนักงานพูดจาเพราะหูรวมไปถึงถนนที่ตัดใหม่ไม่ค่อยโค้งมากนักทำให้ฉันเริ่มจะรักรถเมล์เขียวขึ้นมาบ้างและภาพของตัวฉันเมื่อ ๒๐ กว่าปีที่ผ่านมาบนรถเมล์เขียวพัดลมที่มีบริการถุงอ้วกซึ่งฉันก็ใช้บริการถุงนี้ทุกๆครั้งเริ่มจางลงไป ลาก่อนถุงอ้วก ลาก่อนทางโค้งและชัน ลาก่อนระยะเวลาถึง๔ ชั่วโมงกว่า ยินดีต้อนรับสู่การเดินทางในรูปแบบใหม่กับรถเมล์เขียว....
      หลังจากเสร็จธุระที่สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว ฉันตัดสินใจพักที่เชียงใหม่ ๑คืน เพื่อจะไปชิมอาหารคำ่ที่ Tara Bar and Restaurant ร้านเปิดใหม่ริมแม่นำ้ปิงตามคำแนะนำของบริษัทโฆษณาที่ฉันเกี่ยวดองอยู่ คำ่คืนที่เชียงใหม่ที่มีเพียงแค่ตัวฉันเองไร้คนเคียงข้างไม่ทำให้ฉันรู้สึกเหงา บางครั้งการนั่งกินข้าวคนเดียว ดื่มและฟังเพลงคนเดียวหรือเดินทางเพียงลำพังก็ทำให้ฉันสัมผัสถึงอาณุภาพของคำว่า "อิสระภาพ" ที่ฉันเป็นเจ้าของ และค่อนข้างจะมีความสุขใจกับมันอยู่เสมอ

 

Monday, September 21, 2009

Papua New Guinea ประเทศปาปัวนิวกีนี

    ฉันพึ่งกลับมาจากประเทศปาปัวนิวกีนีได้ไม่กี่วัน รอยเกรียมแดดบนแขนและใบหน้ายังคงเด่นชัด การเดินทางไปประเทศปาปัวนิวกีนีค่อนข้างลำบาก ในเวลา ๓ สัปดาห์ของการเยี่ยมเยือนฉันต้องใช้บริการของสายการบินต่างๆถึง ๑๒ ครั้ง ไม่รวมถึงจำนวนกิโลเมตรบนท้องถนนกับรถโฟร์วิลคันทรหด ที่ฉันต้องเน้นว่าทรหดเพราะถนนหนทางที่นั่นเละเหลือเกิน จนบางครั้งฉันแอบนึกในใจว่าคิดถูกหรือเปล่าที่เช่ารถขับเอง แต่การเช่ารถขับเองก็เป็นวิธีเดียวที่จะได้สัมผัสกับพื้นที่จริงๆ แม้ว่าจะถูกทักท้วงจากผู้คนรอบข้างว่าแสนจะอันตรายเสี่ยงต่อการถูกจี้ปล้นและฆาตรกรรมแต่เรา (ชักจะยังไงเมื่อฉันกลายเป็นเรา) ก็ยังดื้อดึงที่จะเลือกเดินทางในรูปแบบที่เราตั้งใจไว้แล้ว ระหว่างการเดินทางด้วยรถยนต์ซึ่งก็ไม่เร็วไปกว่า ๔๐กม./ชม. ตามสภาพถนน ผู้คนข้างทางยกมือทักทายเราท่าทางเป็นมิตรถึงแม้มืออีกข้างหนึ่งจะถือดาบเล่มยาวเฟื้อย... more still coming


  

  

  

  

  

  

  

  


  

  

  

  

  
 

  











 

Japan ประเทศญี่ปุ่น

      ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งในความใฝ่ฝันของฉันที่จะแวะเยี่ยมชมและความฝันของฉันก็เป็นจริงขึ้นมาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไป เครื่องบินยูไนเต็ดแอไลน์จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมินำฉันไปสู่ท่าอากาศยานนาริตะ จากนั้นฉันก็นั่งรถไฟเข้าไปโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบบการคมนาคมที่ดีมากและที่สถานีรถไฟนี่เองที่ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าในโลกนี้ช่างมีผู้คนอาศัยอยู่เยอะแยะมากมายเหลือเกิน ภาพผู้คนนับพันเดินสวนกันทำให้ฉันนึกถึงตัวหนอนไม้ไผ่ที่ชาวเขาแถวบ้านฉันนำมาใส่อ่างวางขายตามตลาด
     พอเบื่อจากโตเกียวฉันย้ายไปนอนบนเขาอยู่พักหนึ่ง อากาศบนเขาหนาวเย็นแต่มีนำ้แร่ให้นอนแช่ และนำ้แร่ที่นี่ไม่ยักกะมีกลิ่นตุๆเหมือนนำ้แร่ทางบ้านเรา


Bangkok กรุงเทพ


   กรุงเทพเป็นเมืองที่ฉันไม่โปรดปรานเท่าไหร่ เบื่อความสับสนวุ่นวาย อากาศอบอ้าวพร้อมกับค่าครองชีพสูงลิ่ว แต่ก็มีเหตุให้ฉันต้องไปกรุงเทพอยู่เสมอ ฉันเริ่มชอบกรุงเทพมาหน่อยก็เมื่อฉันพบพานกับความรักครั้งใหม่ เขาทำให้ฉันเริ่มมองเห็นความสวยงาม ความน่าสนใจ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย เบียร์แก้วโตแถวสุขุมวิท และร้านต้มยำในตรอกข้าวสารเริ่มเป็นสิ่งสวยงามสำหรับฉัน




Yok Siam ไปอัดรายการยกสยาม ช่อง ๙

เรื่องมันเริ่มมาจากการแวะเยี่ยมเยือนของอาของฉัน ปรกติแกก็มาของแกอยู่บ่อยๆส่วนมากก็คิดถึงเบียร์สิงห์ในตู้เย็นของฉันมากกว่า แต่เย็นวันนั้นแกมาแบบแปลกๆ หลังจากที่น้าหลานได้เบียร์สิงห์พร้อมทั้งเนื้อวัวย่างตำหรับสันกำแพงไปอุ่นกระเพาะแล้วแกก็ถามฉันว่า อยากออกทีวีไหม?.... อืมม...ไอ้ตัวฉันนี่ก็ผ่านอะไรมาเยอะมากมายแล้วแต่เรื่องทีวียังไม่เคยไปเกี่ยวข้องซักกะครั้งแม้แต่ดูทีวีก็ไม่ใช่กิจกรรมของฉันซักเท่าไหร่ แต่ด้วยความปากไวของฉันก็ได้ตอบอาไปว่าอยากสิ มารู้อีกสองอาทิตย์ถัดมาว่าให้ไปออกรายการ ยกสยาม ของคุณปัญญา นิรันด์กุล ทางช่องเก้า ฉันไม่เคยรู้จักรายการนี้มาก่อน มารู้ตอนหลังว่าเป็นเกมส์โชว์ตอบคำถามเกี่ยวกับประเทศไทย ตายละวา...ไอ้ตัวฉันความรู้ก็แค่หางอึ่งจะเอาอะไรไปสู้เขา more comming..

Isarn อีสานบ้านเรา

coming soon

Winter in Europe ฤดูหนาวที่ยุโรป

coming soon

Vietnam ประเทศเวียดนาม

    ฉันไปเวียดนามพร้อมหัวใจสีชมพู ถึงแม้ว่าเริ่มต้นจะไม่ดีเท่าไหร่ด้วยเครื่องแอเอเชียร์จากเชียงรายไปกรุงเทพดีเลย์เกือบ 3ชั่วโมงทำให้ฉันพลาดเที่ยวบินที่จะไปฮานอยในคืนนั้นต้องนอนพักรอเครื่องวันถัดไป โนโวเทล สุวรรณภูมิ เป็นสถานที่พักผ่อนในคืนนั้นด้วยสาเหตุของความขี้เกียจเข้าไปในกรุงเทพ วันรุ่งขึ้นฉันได้ไปฮานอยสมใจ ที่สนามบินฮานอย Noi Bai ชายอันเป็นที่รักรอฉันอยู่แล้วคงไม่มีความรู้สึกใดๆลึกซึ้งและอบอุ่นเท่ากับได้เจอหน้าได้สัมผัสคนที่เรารักหลังจากไม่ได้เจอกันในช่วงเวลาหนึ่ง ฮานอยเหมือนกับที่ฉันวาดภาพเอาไว้ คลาสสิคและโมเดิร์นผสมกันอย่างลงตัว นอกจากฮานอยฉันยังใช้เวลาช่วงหนึ่งล่องเรืออ่าวฮาลอง ตีตั๋วนอนรถไฟสายวิคตอเรียไปยังซาปาพักอยู่กับพวกม้งดำอีกสองสามคืน เวียดนามช่วงนั้นฝนตกชุกถือว่าเป็นประวัตติการณืในรอบ 25ปี แต่สายฝนอันเย็นเยือกก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับฉันเพราะในใจฉันมันแสนจะอบอุ่น....