Friday, October 15, 2010

London 30th Sep.-3rd Oct. ลอนดอน



ฉันไม่ได้ไปลอนดอนมาเป็นเวลาหลายๆปีแล้ว การกลับไปครั้งนี้จึงเป็นการกลับไปอย่างตื่นเต้นหน่อยๆ หลายอย่างเปลี่ยนไปในลอนดอนแต่ก็มีหลายๆอย่างที่ฉันชอบยังคงสภาพเดิม หอนาฬิกาบิ๊กเบ็น สะพานโกลเด้นเกท ลอนดอนอาย และอีกหลายๆที่ยังคงดึึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ชั่วโมงโปรดของฉันในลอนดอนก็ยังเป็นชั่วโมงหลังจากใช้เวลาสองสามชั่วโมงเดินเล่นแล้วอาศัยผับใดผับหนึ่งเป็นที่พักขาพร้อมกับเบียร์แก้วโต
 

Back to the Netherlands 10th Sep.-19th Oct. กลับไป[เยี่ยม]ฮอลแลนด์

 ชีวิตของฉันคงจะหนีฮอลแลนด์ไม่พ้น ความผูกพันธ์กับตัวบุคคลนำไปสู่ความผูกพันธ์กับประเพณี วัฒนธรรม และการใช้ชีวิต ฉันคงจะปฎิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งในความเป็นฉันคือฮอลแลนด์

Monday, September 20, 2010

ใจดวงเดียว แต่มีหลายรัก One heart, many loves



ในชีวิตของฉันมีคำถามหลายคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ หนึ่งในเหตุผลที่ฉันหาคำตอบไม่ได้เป็นเพราะฉันไม่กล้าถาม ทำไมไม่กล้าถามเพราะฉันกลัวคำตอบ กลัวว่าคำตอบนั้้นมันจะบาดลึกเข้าไปในใจฉัน ลึกยิ่งกว่าที่มันเป็นอยู่ตอนนี้
ณ.วันนี้อยากถามชายคนรักว่่าเขารักฉันมากแค่ไหน รักมากกว่า น้อยกว่าหรือเท่ากับคนในอดีตของเขา ผู้หญิงทุกคนรวมทั้งฉันคงอยากได้คำตอบเหมือนกันว่าตนเองเป็นที่สุดของของนิยามรัก หากฉันถามชายคนรักเขาคงจะตอบฉันว่า ระหว่างฉันกับคนในอดีตของเขา เป็นความรักที่แต่งต่างไม่สามารถจะนำมาเปรียบเทียบกันได้ และไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกัน เคยถามว่าเขาจะรักฉันไปอีกนานแค่ไหน คำตอบคือจนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเขา ฉันดีใจกับคำตอบแต่เสียใจกับสถาณภาพของเรา ทุกวันคืนฉันยังแอบหวังอยู่ลึกๆว่าคงมีซักวันที่เราจะมีแต่เรา ความรักทำให้ฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ทำให้ฉันอยากครอบครองเป็นเจ้าของคนทั้งคน ทำให้ฉันมีจิตใจอิจฉาริษยา ทำให้ฉันมีความอยากไม่รู้จักจบสิ้น ความรักของฉันไม่มีวัตถุใดๆแทนที่ได้ มันเป็นเรื่องของใจดวงเล็กที่กระหายรักอย่างบ้าคลั่ง

Tuesday, April 6, 2010

ฉันกับความรัก Me and LOVE



ฉันเป็นคนที่โหยหาและเรียกร้องความรักอย่างมากมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่จำความได้จนถึงทุกวันนี้ความรักที่ฉันได้รับดูเหมือนจะไม่เคยเพียงพอ เริ่มตั้งแต่ความรักจากพ่อแม่และคนรอบข้างจนถึงความรักจากชายคนรัก นั่นคงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเขาออกจากชีวิตฉันไปคนแล้วคนเล่า ในทางทฤษฎีฉันรู้ดีว่าความรักไม่ใช่การครอบครอง คนทุกคนต้องการอิสระแและเสรีภาพในการดำเนินชีวิต แต่ในทางปฏิบัติฉันมักจะล้มเหลว หากฉันรักใคร ฉันอยากจะให้เขารักฉันมากโดยการแสดงออกให้ฉันรู้ว่าทุกนาที ทุกชั่วโมงเขาคิดถึงฉันและรักฉัน คนรักที่ฉันครองได้นานที่สุดคือสิบปีเป็นสิบปีแห่งความสุขและความทุกข์ หลายครั้งในสิบปีเราเลิกรากันไป แต่ก็กลับมาอยู่ด้วยกันใหม่ด้วยอาณุภาพของความรัก มันคงมีมากกว่าจะปล่อยให้หลุดลอย แต่ท้ายสุดเราก็เลิกรากันไปจริง ๆ หลาย ๆ ปีีที่ผ่านไป ฉันจึงมานึกขึ้นได้ว่าตอนที่เรายังอยู่ด้วยกัน เขาคงต้องลำบากใจกับฉันมาก เพราะความข้ี้หึงและคิดมากของฉันอยู่ในขีดที่เรียกว่าสูง จนถึงวันนี้กับชายคนรักคนปัจจุบันด้วยเหตุที่เราอยู่ไกลกันทำให้ไม่สามารถเจอกันทุกวันได้ แต่ระยะทางกว่า 5000 กม. เขาก็ทำได้ดีที่สุดแล้วที่จะทำให้เราเจอกันบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สำหรับฉันมันก็ยังน้อยเกินไปอยู่ดี หากวันไหนฉันไม่ได้รับemailหรือSMSหรืออะไรก็ตาม มันถึงกับทำให้ฉันคิดมาก เขายังรักฉันอยู่ไหม ทำไมไม่emailทุกวันเหมือนตอนคบกันใหม่ๆ ทำไมไม่SMSหรือโทรหา เขาคงเบื่อฉันไม่มีเวลาหรือ ก็แค่emailสั้นๆ มันก็ทำให้ใจฉันเบ่งบาน SMSซักประโยคก็ทำใจอันแห้งผากของฉันชุ่มชื่นได้ ฉันคงคาดหวังกับความรักมากเกินไปบางครั้งก็มากเกินไปจนฉันลืมนึกถึงความหวานละมุนของมัน คงถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง เลิกโหยหาความรักขั้นสูงสุดหรือเลิกที่จะรักตลอดไป
เจ็บนัก ยามอยู่ใกล้
แต่เจ็บมากกว่าคราใด ๆ เมื่อไกลห่าง
แปลกนะในชีวิตของฉัน เคยมีชายที่แต่งบทเพลงให้ฉัน วาดภาพฉัน และถึงกับใส่ชื่อของฉันไว้ในผลงานหนังสือชิ้นเอกของเขา แต่ไม่เคยมีเลยแม้แต่คนเดียวที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกับฉัน....

Wednesday, January 13, 2010

Laos


















เพราะว่าครั้งหนึ่งเคยเอ่ยกับชายอันเป็นที่รักว่าอยากนั่งเรือไปหลวงพระบางดูสักครั้ง จึงทำให้ฉันมีวันนี้ หลังจากที่จัดการงานตัวเองเรียบร้อยแล้ว เกือบชั่วโมงสุดท้ายของวันฉันนั่งรถเมล์คันเก่าๆออกจากสถานีขนส่งเชียงรายไปยังเชียงของ ซึ่งชายอันเป็นที่รักได้เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ตอนสายรถเมล์คันเก่าๆได้พาฉันมาถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ แทบไม่น่าเชื่อหากเห็นสภาพของรถ มันทำให้ฉันนึกย้อนไปถึงหนังไทยสมัยเก่าประมาณปีเกิดของฉัน
เชียงของยังเป็นเชียงของเมืองอันสงบเงียบ นักท่องเที่ยวที่มาพักที่นี่ ล้วนแต่รอคอยการเดินทางข้ามฝั่งไปยังลาวในวันรุ่งขึ้น ยังไม่ถึงสี่ทุ่มร้านรวงต่างก็เริ่มทยอยปิด คงเหลือแต่บาร์สองสามแห่งที่ยังมีนักท่องเที่ยวที่นั่งดื่มเบียร์และคุยกันเบาๆ
วันรุ่งขึ้นเราไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ตอนแปดโมงเช้าหลังจากผ่านวิธีการของตม.เราได้นั่งเรือข้ามฟากไปยังห้วยทราย และนั่งรถต่อไปยังท่าเรือใหญ่เพื่อต่อเรือไปยังหลวงพระบาง เราได้เลือกใช้บริการเรือสำราญที่ให้บริการครบวงจร อาหารเครื่องดื่มที่พักที่ปากแบงสองวันกับอีกหนึงคืน ค่ำวันที่สองของการเดินทางเรามาถึงหลวงพระบาง หากจะนับไปแล้วมันก็เป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆที่ได้ใช้แม่น้ำโขงเป็นเส้นทางสันจรเพราะแม่น้ำโขงมีความยาวรวมทั้งสิ้นถึง 4180 กม.
หลวงพระบางเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ถึงแม่จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ เสน่ห์ของหลงพระบางคงจะเป็นเพราะความเป็นชาติลาวของเจ้าของถิ่น สาวชาวลาวยังนุ่งผ้าซิ่นและปล่อยผมให้ยาวเป็นธรรมชาติ หนุ่มลาวแต่งตัวตามสบาย คนสูงอายุมักมีผ้าพาดบ่า สิ่งที่ฉันชอบที่สุดคงเป็นการอ่านป้ายต่างๆในลาว เพราะด้วยความที่ภาษาไทยเหนือกับภาษาลาวมีพื้นฐานภาษาที่ใกล้เคียงกัน ทำให้การท่องเที่ยวในลาวไม่ยากอะไรเลย ฉันก็แค่ใช่คำเมืองในการสื่อสารพวกเขาตอบเป็นคำลาวเราก็เข้าใจกันและกัน
ตลาดหลวงพระบางเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ดึงดูดดใจนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก สีเขียวของสาหร่ายน้ำโขงดูตัดกับสีม่วงของมะเขือยาวมองดูน่าทึ่ง สินค้าที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของที่นี่ก็คือหนังควายตากแห้ง สำหรับเอาไปเผาไฟกินแกล้มเหล้าป่าดีกรีสูงร้อนแรง
เช้าวันหนึ่งฉันได้ไปตักบาตรข้าวเหนียวกับแม่อุ๊ยชาวลาว บรรยากาศรอบข้างดูน่าศรัทธาเลื่อมใส เพราะฉันกับชายที่รักเลือกตรงจุดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย มีแค่ฉัน แม่อุ้ย กับชาวลาววัยกลางคนอีกสองคน ภาพแม่อุ้ยเอาข้าวเหนียวจบเหนือหัวพร้อมกับอธิษฐานตรึงตราอยู่ในใจฉันไปอีกหลายวัน แต่ก็อีกนั่นแหละ อีกไม่ก่ีสิบเมตรถัดจากเราเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รอตักบาตรเหมือนกันทุกคนสะพายกล้องอันโตแสงเฟรชวูบวาบอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับแม่ค้าพ่อค้าชาวลาวร้องขายข้าวเหนียว สำหรับฉันก็เลือกจดจำแต่สิ่งที่ฉันอยากจะจดจำ
จากหลวงพระบางเราย้ายไปเวียงจันทร์โดยใช่บริการของสายการบินลาว แค่ไม่กี่ชั่วโมงเราก็ถึงจุดหมาย ห้องพักริมน้ำโขง ฉันมองไปยังฝั่งตรงข้ามพร้อมกับนึกสงสัยนั่นมันเมืองอะไร มารู้ทีหลังว่าคือหนองคายประเทศไทยเรานั่นเอง แปลกจริงเดินทางมาไกลแสนไกล มานั่งอยู่หน้าของบ้านเมืองตัวเอง