11 มิถุนายน 2559
พุกาม
ตีสี่กว่าๆฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงคนข้างห้องเปิดปิดประตู พวกฝรั่งนักท่องเที่ยวคงลงไปเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวไปปีนเจดีย์ดูพระอาทิตย์ขึ้น เปิดผ้าม่านดูเห็นเมฆดำหนาทึบพร้อมกับฝนตกบางๆ น่าเห็นใจนักท่องเที่ยวที่มาจากเมืองไกลที่อากาศไม่เป็นใจสำหรับพวกเขา เสียงคุยกันแว่วๆดังมาถึงห้องฉันว่าคงต้องเสี่ยงไปเพราะเช้านี้จะเป็นเช้าเดียวที่พวกเขาอยู่ที่นี่กัน ฉันไม่ได้มีแผนจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกับเขาเพราะเคยเห็นแล้วเมื่อสองปีก่อนและคราวนี้ก็ไม่ได้พกขาตั้งกล้องมาสำหรับถ่ายรูปแนวนั้น นอนเล่นไปเรื่อยๆจนเกือนแปดโมงเช้าก็หอบหิ้วเป้พร้อมสำภาระการล้างหน้าแปรงฟันลงมา อ่างล้างหน้าทั้งสามอ่างที่ติดไว้ริมฝาห้องสุขาถูกจับจองแล้วทุกอันโดยหนึ่งน่าจะเป็นพนักงานในโรงแรมนี้และอีกสองเป็นฝรั่งชายวัยรุ่น ฝรั่งสาวอีกสองคนยืนอยู่หน้าห้องสุขามือหนึ่งถือขวดนำดื่มอีกมือหนึ่งแปรงฟันไปพร้อมหยุดคุยกันไปเป็นระยะๆ ฝรั่งฮิปปี้แก่ๆที่ผงกหัวทักทายฉันเมื่อคืนหลังจากที่ฉันออกจากห้องน้ำกำลังบรรจงบีบยาสีฟันใส่แปรงสีฟันให้ตรงตามแนวแต่ไม่ค่อยเป็นผลนักเพราะมือสั่นเกินระดับสี่ริกเตอร์ ฉันยืนรอจังหวะอยู่ห่างๆหลังจากพวกเขาเสร็จสรรพแล้วก็เข้าไปยืนยืนประจำการหน้าอ่างล้างหน้าอันที่ฉันคิดว่าสะอาดที่สุด กำลังใส่แปรงสีฟันไปในปากและเริ่มขยับข้อมือก็มีเสียงดังมาจากอ่างข้างๆ เริ่มด้วยเสียงเปิดปิดน้ำและล้วงหาสิ่งของ จังหวะที่ฉันหันไปดูเพื่อนบ้านแปรงฟันคนใหม่นั้นเองก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาเริ่มขากเสลดครั้งแรก หนุ่มฝรั่งหน้าตาดีผมหยิกหยองเต็มหัวรวบรวมพลังงานและลมปรานทั้งหมดที่เขามีสูดอากาศเข้าไปผ่านจมูกและลำคอของเขาแล้วขากออกมา ขากออกมา ขากออกมา แล้วขากออกมาอีกครั้งแล้วครั้งเล่าจนน่ากลัวว่าตับใตใส้พุงจนถึงลูกอัณฑะของเขามันจะออกมาทางคอจนหมดสิ้น นาทีนั้นฉันนึกไปถึงตัวเองตอนอายุยี่สิบต้นๆที่นั่งรถทัวร์ไปกรุงเทพฯพอถึงหมอชิตตอนเช้ามืดก็ไปยืนล้างหน้าแปรงฟันตรงอ่างหน้าห้องน้ำสาธารณะ คราบยาสีฟันที่คนอื่นบ้วนไว้ คราบเสลดที่ถูกขากออกมาแล้วไหลไปตามคว่ามยาวของอ่าง รูป กลิ่น สี มาเต็มในจินตนาการของฉัน ทำไมฉันต้องทำร้ายตัวเองถึงขนาดนี้ ทำไมฉันต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้ ทำไมฉันถึงต้องอยู่ที่นี่?? วินาทีนั้นมันเหมือนกับมีใครสักคนมาเปิดไฟให้ทางในขณะที่ฉันกำลังเดินในที่มืดๆ รีบแปรงฟันให้เสร็จแล้วขึ้นไปบนห้องจัดการเปิดแอพอโกดาแล้วจองห้องใหม่ โรงแรมใหม่ ห้องนำ้ส่วนตัวคือสิ่งแรกที่ฉันมองหา จัดการเรื่องโรงแรมเรียบร้อยฉันแพคข้าวของลงเป้แล้วออกไปเช็คเอาท์พร้อมซดกาแฟร้อนหนึ่งถ้วย
เดินไปโรงแรมใหม่ระยะทางเกือบสองกิโลเมตรพอได้ออกกำลังให้เหงื่อชุ่มหลัง ถึงหน้าประตูดอร์แมนรีบเปิดประตูให้พร้อมรอยยิ้มสีแดง ฉันบอกพนักงานรีเซฟชั่นว่าได้จองห้องไว้คืนนี้และขอเช็คอินก่อนเวลา พนักงานใจดีน่ารักมากถามว่าฉันมารถไฟหรือรถเที่ยวดึก ฉันบอกว่าเปล่าฉันเดินมาจากอีกโรงแรมหนึ่งเพียงแค่อยากเปลี่ยนที่นอน เขาให้ฉันเช็คอินเช้าได้โดยไม่มีเงื่อนไขทั้งๆที่มันยังไม่ถึงสิบโมงเช้าด้วยซำ้เพราะตามปรกติเวลาเช็คอินต้องเป็นบ่ายสองขึ้นไป โชคดีชะมัด ห้องใหม่มีทุกสิ่งที่ฉันต้องการ เตียงใหญ่พร้อมหมอนหลายใบ ห้องนำ้สะอาด น้ำดื่ม โต๊ะวางของ ผ้าเช็ดตัวหลายๆผืน สำหรับ ทีวี แอร์ พัดลม ก็ถือว่าผลพลอยได้ อาบนำ้จัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเดินลงมาข้างล่างติดต่อเช่าสกู้ตเตอร์ไฟฟ้าหรืออีไบค์ราคา5,000จ๊าตต่อวันพร้อมจองตัวรถสำหรับไปย่างกุ้งคืนพรุ่งนี้ อีไบค์มีให้เห็นมากมายที่พุกามมากกว่าเมื่อสองปีก่อนเยอะและรูปแบบก็พัฒนาให้สวยมากขึ้นเรื่อยๆ สองปีก่อนยังมีรูปทรงเป็นกึ่งจักรยานกึ่งสกู้ตเตอร์แต่ ณ.วันนี้รูปแบบเป็นสกู้ตเตอร์เต็มตัวพร้อมสีสันสดใสน่าใช้ อีไบค์ขับได้ความเร็วสูงสุด40กม./ชม. ระยะทางใช้งานสูงสุด45กม.ต่อการช้าตแบตเต็มหนึ่งครั้ง เพื่อความมั่นใจฉันพกนามบัตรของโรงแรมที่พักติดกระเป๋ามาด้วยเผื่อกรณีฉุกเฉิน
อีไบค์สีเขียวสดพาฉันลัดเลาะมาเริ่มต้นมหกรรมชมเจดีย์ที่เจดีย์Swezigonพร้อมด้วยละอองฝนเบาๆจากนั้นก็แวะไปเรื่อยๆทั้งเจดีย์น้อยและใหญ่ จนมาถึงวัดAnandaท้องฟ้าก็เริ่มเปิดเห็นแสงแดดส่องมาบางๆ วัดนี้ฉันคิดว่าสวยงามที่สุดวัดหนึ่งที่เคยเห็นมาทั้งรูปแแบของวิหารและพระพุทธรูปที่อยู่ด้านใน แวะเล่นกับลูกหมาตัวผอมที่อยู่ในบริเวณวัด มันมีสีเดียวกันกับหมาที่ฉันเคยเล่นด้วยเมื่อสองปีก่อนคาดว่าน่าจะเป็นลูกของตัวนั้นหรืออาจจะญาติๆกัน หมาน่ารักและเป็นมิตรแต่ตัวมันผอมโกรกจนแทบจะเดินไม่ไหวแข้งขาคงไม่มีเรี่ยวแรงมากนัก ฉันล้วงไปในเป้เพราะจำได้ว่ามีโอรีโอ้เหลืออยู่สองสามชิ้น บิออกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วยื่นให้มัน หมาอาจจะไม่ชอบโอริโอ้แต่ฉันบอกมันให้พยายามกินจะได้มีแรง ดูเหมือนมันจะฟังรู้เรื่องค่อยๆเล็มกินจนหมดไปสองชิ้น แม่ช่วยได้แค่นี้นะ ถ้าชาติหน้ามีจริงให้ลูกเกิดมาแล้วมีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์กว่านี้นะลูกหมานะ เดินทะลุออกมาอีกด้านหนึ่งของวัดมานั่งพักอยู่ใต้ต้นมะขามที่เคยมานั่งพักคราวก่อน ตำรวจสาวสามนางเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยคงนึกว่ามีสไทยแลนด์มาเที่ยววัด 555 แวะอีกหลายเจดีย์ก่อนจะมาปีนขึ้นเจดีย์Shwesandawในเวลาเกือบเที่ยงวัน ซึ่งโชคดีมากที่แสงแดดทำให้ขั้นบันไดทั้ง66ขั้นไม่ค่อยลื่น ระดับการปีนน่าจะเรียกได้ว่าคลานขึ้นเพราะทั้งสูงและชันทำให้แอบคิดในใจว่าถ้าได้มาอีกครั้งไม่แน่ใจว่าจะขึ้นไหวรึเปล่า อายุ สังขาร มันบั่นทอนความสามารถของมนุษย์จริงๆ วิวทะเลเจดีย์จากบนเจดีย์Shwesandawยังงดงามเหมือนเดิมถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เวลาพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกดิน . เจดีย์ วัด และศาสนสถานที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองพุกามมีมากราว10,000แห่ง แต่ที่คงเหลือให้เห็นจนถึงทุกวันนี้มีประมาณ2,200แห่ง วิว360องศาของทะเลเจดีย์ทำให้ฉันหายเหนื่อยไปเยอะ
ไม่ลืมที่จะแวะไปที่วัดMahunaแวะชมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สร้างไว้ในวิหารขนาดพอดีกับองค์พระ ไหล่ซ้ายขวาและเศียรขององค์พระชนพอดีกับผนังและหลังคาวิหาร คนไทยรู้จักพระองค์นี้ในชื่อว่า พระอึดอัด ไม่รู้ว่าใครมาตั้งชื่อไว้แต่เคยอ่านเจอในอินเตอร์เน็ตหลายปีก่อน แวะที่โน่นที่นี่ไปเรื่อยๆ จนถึงวัดเล็กๆแห่งหนึ่งเห็นสาวๆนั่งล้อมวงฝนทะนาคาเอามาประตามตัวและใบหน้า หนึ่งนางในนั้นคงเห็นฉันสนใจก็เลยกวักมือให้เข้าไปร่วมวง ไม้ทะนาคาท่อนโตถูกเอามาฝนกับหินหยาบแล้วค่อยๆเติมนำ้ลงไปจนได้เป็นแป้งสีเหลืองนวล สาวพม่าบรรจงแตะทะนาคาเปียกๆนั้นประไปตามใบหน้าของฉัน ซ้าย ขวา คาง จมูก และเอียงคอดูผลงานของตัวเองแต่นางคงยังไม่ค่อยพอใจจึงประเพิ่มตรงโน้นตรงนี้อีกหลายที่แล้วยิ้มออกมาท่าทางพออกพอใจ หยิบพัดออกมาพัดหน้าฉันจนแห้งแล้วแล้วหยิบกระจกบานเล็กมาให้ส่อง บิ้วตี้ฟูลนางว่า ฉันนึกขึ้นมาได้ว่ามีโลชั่นบำรุงผิวหลอดเล็กติดอยู่ในเป้จึงล้วงออกมาให้เพื่อตอบแทนและช่วยซื้อพุทรากวนอีกหนึ่งกระปุกเล็ก2,000จ๊าต แต่เมื่อมาเปิดดูทีหลังปรากฏว่าขึ้นราแล้วก็เลยโยนทิ้งไป ไม่เป็นไร เขาคงไม่ตั้งใจเอาของไม่ดีมาขาย
เกือบบ่ายสามขับอีไบค์ผ่านเขตเมืองใหม่พุกามถึงรู้สึกตัวว่าหิว จำได้ว่าเมื่อคืนอ่านเจอเรื่องร้านอาหารอินเดียระแวกนี้ว่าเป็นหนึ่งในสิบร้านอาหารที่อร่อยที่สุดในพุกาม พอนึกได้ปุ๊บตาก็เหลือบเห็นป้ายร้านปั๊บ มันคงเป็นโชคชะตา ลาสซี่มะม่วงแก้วโต ซุปถั่วถ้วยเล็ก แกงเผ็ดไก่มาซาล่า นานกระเทียมอีกแผ่น พร้อมเครื่องเคียงอีกหกอย่าง เสิร์ฟมาในถ้วยและจานเซรามิคอย่างดี ผ้าเช็ดปาก ผ้าปูโต๊ะทำจากผ้าไหมลายเข้าชุดกันสมกับเป็นร้านอาหารมีชื่อ รสชาติอาหารคงให้คะแนนแค่พอใช้ได้เพราะเนื้อไก่ดูเหมือนว่ายังปรุงไม่นานพอแทบเกือบดิบ นึกถึงอาหารคำ่มื้อนั้นที่บาหลีเมื่อหลายเดือนก่อนที่จ่ายเงินไปกว่า100$สำหรับอาหารที่ถือว่าแค่ใช้ได้ สุวรรณีไม่เคยเข็ดเรื่องตามรอยรีวิวร้านอาหาร กี่ปีกี่ปีก็ยังทำเหมือนเดิม
กลับมาถึงห้องก็รู้สึกว่าตัวเองสกปรกพอสำหรับการสระผมเพราะครั้งสุดท้ายที่สระผมน่าจะห้าหรือหกวันก่อน แชมพูพม่าซองละ50จ๊าต3ซองที่ซื้อมาจากตลาดที่มัณฑะเลย์ถูกนำมาทดลองใช้ เข้าท่าแฮะ หอม ฟองเยอะดี อาบนำ้สระผมเสร็จทนเห็นเตียงใหญ่ๆนุ่มๆไม่ไหวก็เลยใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงนอนกลางวัน
ตื่นมาเกือบห้าโมงเย็นรีบแว๊นอีไบค์ไป Bu Paya วัดที่ตั้งอยู่ริมน้ำอิระวดีเพื่อดูพระอาทิตย์ตกดินแต่ไม่กล้าอยู่นานจนถึงมืดเพราะระยะทางค่อนข้างไกลและไม่แน่ใจว่าจะหาทางกลับมาที่พักถูกและอีไบค์จะไม่ตายกลางทาง แม่น้ำอิระวดียามเย็นดูขลังและมีเสน่ห์ เรือรับจ้างล่องแม่น้ำอิระวดีเข้าฝั่งกันหมดแล้ว คนเรือรวมกลุ่มกันทำความสะอาดเรือและอาบน้ำไปพร้อมกันดูครึกครื้น แสงสุดท้ายของวันพาดอยู่บนสีทองของเจดีย์Bu Payaทำให้เกิดเงาดูมีมิติ แต่ก็อดนึกถึงเจดีย์องค์ก่อนที่พังลงไปในแม่น้ำด้วยฤทธิ์ของแผ่นดินไหวในปี2518ไม่ได้ว่าจะงดงามเพียงไหน
ระหว่างทางกลับมาที่พักแวะดื่มชาร้านที่เคยมาเมื่อวาน ชานมพม่าสีเข้มจัดหอมหวานอร่อยชวนดื่ม สนนราคาถ้วยละ400จ๊าตหรือประมาณ13บาท สลัดใบชาจานเล็กวันนี้มาพร้อมช้อนหนึ่งอัน นั่งจิบชาไปนั่งมองวิถีพม่าไป ลูกค้าทุกคนที่นี่เป็นชายก็เลยคิดว่ากิจกรรมจิบชายามค่ำของพม่าน่าจะเป็นกิจกรรมของผู้ชาย พวกเขาจะมากันเป็นกลุ่ม ดื่มชา สูบบุหรี่ เคี้ยวหมาก คุยกัน หัวเราะเฮฮาน่าสนุก ชาวพม่าชอบนุ่งผ้าลาย ยิ่งลายยิ่งอินเทรนด์ ข้างบนลาย ข้างล่างก็ลาย แอ็บสแตรกมาก ฉันเองทุกครั้งที่มาพม่าก็จะนุ่งแต่ผ้าลาย ยิ่งลายยิ่งงามตามเทรนด์พม่า นอกจากร้านขายหมากที่มีอยู่เกือบทุกๆร้อยเมตรริมถนนแล้ว ชาวพม่าก็ชอบเล่นการพนันเป็นงานอดิเรก ฉันเคยไปชะโงกดูเห็นเป็นหอยเบี้ยเขย่าๆแล้วนับ ไม่แน่ใจว่าเขาเรียกว่าเล่นเบี้ยหรือว่าอะไร คราวก่อนที่นั่งรถไฟจากพุกามไปมัณฑะเลย์ฉันเห็นเขาตั้งวงเล่นไพ่บนพื้นท้ายขบวน ประเทศอะไรกิจกรรมเยอะน่ารักชะมัด
ค่าใช้จ่ายวันนี้
โรงแรม 835 บาท
อาหาร เครื่องดื่ม 13,600 จ๊าต
ตั๋วรถไปย่างกุ้งสำหรับคืนพรุ่งนี้ 18,500 จ๊าต
เช่าอีไบค์ 5,000 จ๊าต
**รวมค่าใช้จ่ายวันนี้เยอะกว่าวันก่อนๆมาก แต่ก็ยังงงว่าอยู่พุกามมาสองวันแล้วยังไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมเข้าเมือง20$ สงสัยเพราะว่าวันที่เข้าเมืองมา มากับรถพม่าไม่ใช่รถนักท่องเที่ยวเขาเลยไม่เก็บเงินเพราะคิดว่าฉันเป็นพม่า
No comments:
Post a Comment