ช่วงแห่งเวลาที่เราใช้ร่วมกันมีเรื่องราวมากมายที่ทำให้ฉันหัวเราะ ยิ้มและลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ครั้งนั้นเรานั่งเรือไปกลางแม่นำ้อันกว้างใหญ่ บนเรือมีเรา กัปตันเรือและเหมดที่คอยดูแลเรื่องอาหารเครื่องดื่มและความสะดวกสบายอื่นๆ ฉันง่วนอยู่กับการเปลี่ยนเลนส์กล้องถ่ายรูปอยู่บนกาบเรือด้านหน้า หันมามองเขาเห็นเขากำลังเล็งกล้องมาทางฉัน ฉันยิ้ม ยิ้มในท่าทางยกกล้องแบบเก้ๆกังๆของเขา เขาพึ่งมาหัดใช้กล้องเมื่อไม่นานมานี้ คงเป็นเวลาเดียวกันกับที่เราเริ่มคบกันแต่เขาก็ขยันที่จะเรียนรู้จากหนังสือและสื่อต่างๆ เริ่มต้นด้วยซื้อกล้องรุ่นใหม่ราคาสูงมาใช้งานและภายในเวลาไม่ถึงปีก็ขยับเป็นรุ่นที่โปรมากขึ้นใหญ่มากขึ้นและแน่นอนที่สุดแพงมากขึ้นและเปลี่ยนเป็นครั้งที่สามก่อนหน้าทริปเรือนี้ ฉันแหย่เขามาตลอดเรื่องกล้องใหม่เขาก็แค่ทำหน้าเขินๆและตอบกลับมาว่า " ก็ผมอยากถ่ายรูปสวยๆแบบคุณน่ะและเราจะได้มีกิจกรรมทำร่วมกันระหว่างที่เราเดินทาง ผมเองก็ชอบมากนะเรื่องถ่ายรูปเพียงแต่ไม่มีโอกาสได้ทำมันมาก่อนแค่นั้นเอง " สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายสอนฉันเรื่องคุณสมบัติต่างๆของกล้องและเลนส์เพราะเขาศึกษามาอย่างลึกซึ้ง ฉันเสียอีกที่แม้ว่าจะจับกล้องมานับสิบปีแต่การเรียนของฉันมาจากภาคปฏิบัติล้วนๆ ตั้งแต่ตามตากล้องนิตยสารท่องเที่ยวไปในในฐานะผู้ช่วยช่างภาพ ตามตากล้องนิตยสารแฟชั่นใปจัดแสง และขยับมาเป็นช่างภาพอิสระและในที่สุดก็แค่งานอดิเรก ความคิดของเขาน่ารักเสมอจนฉันอดไม่ได้ที่จะขยับไปนั่งพิงอกเขาตรงกลางเรือพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหามุมสวยๆในเวิ้งนำ้สำหรับบันทึกลงในกล้องคู่ใจ ความสุข....
ครั้งที่เราขับรถแลนด์ โรเวอร์ คันเล็กของเขาไปตามไฮเวย์หมายเลขหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังภูเขาสูงลิบที่มีหิมะคลุมตลอดปีแม้จะเป็นเดือนกันยายน ฉันในฐานะผู้โดยสารที่ดีวุ่นอยู่กับการหมุนหาคลื่นวิทยุฟังเพราะๆกับระยะทางหลายร้อยไมล์ พลันก็มีเสียงเพลงจากคลื่นหนึ่งแทรกมา we wish you a Merry Christmas we wish you a Merry Christmas... เพลงคริสมาสต์ในเดือนกันยายน! ฉันกับเขาร้องกรี๊ดออกมาพร้อมกันฉันเร่งเสียงวิทยุให้ดังขึ้น เขากดปุ่มกระจกรถลงเปิดหลังคาผ้าใบรถออก และเราก็ประสานเสียงกันร้องเพลงคริสมาสต์บนไฮเวย์หมายเลขหนึ่งพร้อมกับโบกไม้โบกมือหัวเราะให้กับรถบรรทุกคันโตที่ขับสวนไปมาเป็นระยะ ความสุข....
กับครั้งที่เราปั่นจักรยานไปตามถนนขรุขระที่ไหนซักแห่ง ทางแย่มากจนฉันอดกังวลไม่ได้ว่าเราจะหลงทางจักรยานเสียหรือขาดนำ้ตายกลางทางแต่เขาก็ยังยิ้มและปลอบฉันว่าเราจะปลอดภัย ฝุ่นสีแดงจัดผสมกับเหงื่อทำให้หน้าตาเราดูตลก และอดหัวเราะขำกับหน้าตาของแต่ละฝ่ายไม่ได้ ปั่นผ่านกระท่อมหลังเล็กที่มีเด็กๆสองสามคนยืนแหงนมองดูบนต้นไม้ฉันปั่นตามเขาผ่านกลุ่มเด็กๆไปพลันหางตาก็เหลือบเห็นว่าวสีแดงตัวเล็กติดค้างอยู่บนกิ่งไม้ ฉันปั่นจักรยานกลับมายังกลุ่มเด็กๆและพยายามจะเอื้อมมือไปหยิบว่าวตัวนั้นให้พ้นจากกิ่งไม้แต่มันสูงเกินไปสำหรับฉัน พลันมือใหญ่ก็เอื้อมมาจากด้านหลังหยิบว่าวตัวจิ๋วออกจากพันธนาการยื่นส่งให้เด็กๆได้อย่างง่ายดาย " ตัวเล็ก " เสียงเขาแหย่ฉัน " ยักษ์ " ฉันตอบกลับ แล้วเราก็หัวเราะใส่กันพร้อมกับฟันขาวๆตัดกับหน้าแดงๆเลอะฝุ่นเหงื่อ ความสุข....
กับอีกครั้งที่เราต่างคนต่างนั่งทำงานของตัวเองอย่างเงียบๆในห้องเอ็กซ์คลูสีฟ เลาจ์ ของโรงแรมดังทีไหนซักแห่งหนึ่ง เขาง่วนอยู่กับการเตรียมข้อมูลสำหรับการสัมนาวันรุ่งขึ้น ฉันยุ่งอยู่กับการตอบอีเมล์ลูกค้าสองสามราย และอัพเดทเวปไซต์ของบริษัททัวร์เล็กๆที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่แล้วต่อด้วยเล่นเกมส์ที่ชอบ เขาลุกขึ้นยืนแล้วถามฉันว่าอยากดื่มอะไรเพิ่มมั๊ย ฉันตอบไปว่าขอไวน์แดง เขาหายไปสักครู่และกลับมาพร้อมกับไวน์แดงสองแก้วในมือ " ไวน์แดงไม่ใช่ไวน์ที่คุณชอบที่สุด ผมขอโทษด้วยที่โรงแรมนี้ไม่มีไวน์ขาวรสหวานแบบที่คุณชอบ เอาไว้คราวหน้าผมจะหาไอซ์ไวน์ดีๆมาให้คุณนะ ให้อร่อยเหมือนกับที่คุณเคยเล่าให้ผมฟังเมื่อตอนคุณขับรถไปชิมถึงที่โรงบ่มในเยอรมัน " ฉันยิ้มขอบคุณเขา เขาจดจำรายละเอียดเรื่องราวต่างๆได้ดีเสมอ เขาขยับมาดูหน้าจอแลปท้อปของฉัน " งานคุณเสร็จแล้วเหรอ เบื่อมั๊ยที่ต้องมานั่งเฝ้าผมทำงาน เอางี้เราไปว่ายนำ้กันดีกว่า แดดไม่จัดเหมือนตอนกลางวันแล้ว ว่ายนำ้แล้วผมจะทานำ้มันมะพร้าวบนหลังให้คุณก่อนคุณเข้านอนคืนนี้คุณจะได้หลับสบาย " ความสุข....
นำ้หนักตัวที่ทิ้งลงมาบนโซฟาทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ ร่างอุ่นๆขยับมาชิดฉัน มือข้างหนึ่งยื่นมาวางไว้บนไหล่ของฉัน " คุณไม่มีความสุขใช่มั๊ย? " ความรู้สึกเจ็บแปรบแล่นผ่านหัวใจของฉันเมื่อเขาทวนคำถามเดิม ฉันสับสน งุนงงกับความรู้สึกของตัวเอง เพียงแค่มือที่วางบนใหล่ฉันมันชั่งมีอานุภาพมากมาย มันหลอมละลายภูเขาหิมะที่อยู่ในใจฉันได้อย่างง่ายดาย เหมือนว่าห้องทั้งห้องกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง " ฉันขอโทษ ฉันคงเหนื่อยเกินไปกับการเดินทาง มันเป็น24ชั่วโมงที่แสนยาวนานบนเครื่องบินชั้นประหยัดสองลำนั้น มาเจอปัญหาที่สนามบินปลายทางอีก " เขารั้งตัวฉันชิดอกกว้างของเขา มือใหญ่ลูบบนแผ่นหลังฉันช้าๆอ่อนโยน " หลับตาซะคนดี ผมจะกอดคุณไว้กับอกผม มันผ่านพ้นไปแล้ว คุณไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว พักผ่อนให้เต็มที่พอคุณตื่นมาพรุ่งนี้เช้าคุณก็จะเห็นว่าโลกมันสดใสน่าสัมผัสแค่ไหน ถึงข้างนอกฝนจะตกหรือจะหนาวเหน็บแค่ไหนคุณก็จะอบอุ่นและเป็นสุข " ฉันขยับซุกตัวแน่นอยู่ในอ้อมอกกว้างของเขา ที่ที่อันแสนจะอบอุ่นปลอดภัย มีความรู้สึกเหมือนตัวเองกลับไปเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่หาทางกลับบ้านเจอหลังจากหลงทางมาทั้งวัน " ฉันมีความสุขคะที่ได้อยู่กับคุณ " ฉันส่งเสียงเล็กๆออกมาก่อนที่จะหลับลงไปด้วยความง่วงงุนแต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงวงแขนแข็งแรงที่กอดกระชับฉันแน่นยิ่งขึ้น
ความสุข ความสุข ความสุข เเละ ความสุข
No comments:
Post a Comment