Saturday, September 20, 2014

Classic USA Road Trip, 4th September - 27th September 2014. Part 2

ตามหาจนเจอ!!!!! แกรนด์ พริสเมติก บ่อนำ้ร้อนที่สวยที่สุดในโลก!!!!
   บ่อน้ำพุร้อนแกรนด์พรีสเมติก (Grand Prismatic Spring)
เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน สหรัฐอเมริกา ซึ่งสีสันที่แบ่งเฉดเป็น สีน้ำเงินตรงกลางบ่อและสีส้มที่ขอบบ่อนี้เองที่ทำให้สถานที่แห่งนี้งดงาม ราวกับอยู่ในเทพนิยาย จนไม่คิดว่าจะมีอยู่บนโลกนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายถึงการแบ่งเฉดสีของบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ว่า ขอบบ่อที่เป็นสีส้มนั้นเกิดขึ้นจากแบคทีเรียที่เจริญเติบโตอย่างหนาแน่น บริเวณขอบบ่อ เนื่องจากภายในบ่อนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุและมีอุณหภูมิที่เหมาะสม
    วันนี้ตั้งใจจะตามหาบ่อนำ้ร้อนบ่อนี้ให้เจอหลังจากพลาดไปเมื่อวาน หาข้อมูลก่อนไปให้แน่ใจว่าจะไม่ขับรถเลยไป ต้องย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิมเมื่อวานขึ้นไปทางเหนือตามด้วยเลี้ยวซ้ายไปตาม เส้นมิดเดิล เบซิ่น จอดรถทิ้งไว้แล้วเดินตามเส้นทางที่ทางอุทธยานวางไว้ เดินพอหายหนาวสองสามกิโลเมตรก็ถึงบ่อนำ้ร้อนแต่เพราะว่าตัวบ่อกว้างใหญ่เกิน กว่าที่ถ่ายรูปให้เห็นสีสัน ถ่ายเป็นสิบๆรูปก็ได้แค่มุมหรือไม่ก็ควัน รู้สึกผิดหวังมากเพราะรูปที่เห็นในอินเตอร์เนตมันสวยจับใจมาก เดินย้อนกลับมาที่รถหาข้อมูลเพิ่มพบว่าต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปถ่ายรูปจาก ข้างบน อันนี้ก็คงจนปัญญาที่จะทำหรืออีกนัยหนึ่งก็จนปัจจัย อืมมมมมมม.... มันต้องมีวิธีสินะ
นั่งหาข้อมูลจากผ่านอินเตอร์เนตไปเรื่อยๆจนมาเจอเวปช่างภาพ พวกนี้มักมีวิธีดีๆแปลกๆให้ได้มาซึ่งภาพสวยๆ นายคนหนึ่งเขียนไว้ว่าให้ขับรถลงไปทางใต้หน่อยแล้วเลี้ยวเข้าไปเส้นแฟรี่ ฟอลส์ จอดรถไว้ที่ลานจอดรถแล้วเดินตามเส้นทางไปนำ้ตกพอเจอทางแยกเล็กๆซ้ายมือขึ้น เขาให้เดินตามรอยนั้นไป ไปจนถึงยอดเขาจะได้วิวที่แต่ต้องใส่รองเท้าที่ปีนเขาไปเพราะทางชันมาก อ่ะนั่นไง สติมาตันหาเกิด เอ้ยยยย ปัญญาเกิด ทำตามคำแนะนำของนายไม่ทราบชื่อจนมาถึงลานจอดรถแฟรี่ ฟอลส์ แต่ที่ทำไม่ได้ก็คือรองเท้าเพราะมีแค่ที่ใส่มาคู่เดียวNBคู่ใจไปได้ทุกงาน แล้วมันจะไหวรึ? เอาน่าลองดูก่อน ตอนเป็นเด็กก็ตีนเปล่าวิ่งไปมาไม่เห็นเป็นไรนิ สะพายกล้องคาดลำตัว โทรศัพท์เหน็บกระเป๋ากางเกงด้านหลังเริ่มออกเดิน ทางเข้านำ้ตกเป็นดินปนทรายสีดำๆร่องรอยของลาวาที่ประทุออกมาในอดีตกาลยังมี ให้เห็น จิตก็คิดไปถึงหนังเรื่องเกี่ยวกับภูเขาไฟระเบิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เรื่อง2012ที่ถ่ายทำที่นี่ยังฝังติดตา นึกแบบขำๆดีนะที่วันนี้นุ่งกางเกงในสีจัดมาหากเกิดอะไรขึ้นคนคงตามหาเราเจอ ง่าย กำไลแขนก็สลักชื่อไว้ละ กางเกงในมันอาจจะไหม้ได้แต่เครื่องเงินคงไม่หลอมเร็วขนาดนั้น เป็นอะไรไปคนที่อยู่ข้างหลังคงไม่ลำบากเพราะไม่ได้สร้างหนี้สินหรือภาระอะไร ทิ้งไว้ มีแค่แมวน้องสโนว์ตัวเดียวที่จะเป็นภาระ โน่น นี่ นั่น จินตนาการไปเรื่อยเปื่อย.....
    มาถึงทางแยกขึ้นเขาแหงนขึ้นมองแล้วตกใจ เรียกว่าแหงนจนท้ายทอยจดหลัง มันชันมาากกกกก! ยืนพิจารณาอยู่หลายนาทีว่าจะทำยังไง ทางชันแต่มีต้นสนเล็กใหญ่ตลอดทาง ตัดสินใจปีนไต่ขึ้นไปเรื่อยๆสะพายกล้องไว้ด้านหลังมือเกาะกิ่งสนบ้างรากไม้ บ้างเท้าก็พยายามยันต้นไม้ตาม ขึ้นไปเรื่อยๆทีละนิดละนิดนึกถึงตัวเองตอนเป็นเด็กชอบปีนต้นฝรั่งหลังบ้าน ทักษะนั้นมันใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ขึ้นมาจนถึงระดับที่ตัวเองพอใจและกะพอได้รูปที่ดีกว่าถ่ายจากข้างล่างแต่คง ไม่เจ๋งเท่ากับพวกที่ถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ หาที่ยืนเหมาะๆอีกแขนกอดต้นสนเอาไว้เผื่อลมพัด แฮ่ๆ ข้างบนนั้นเงียบมากและบ่อนำ้ร้อนที่มองจากมุมสูงมันทำให้ใจฉันสงบไปหลายนาที งามเหลือเกิน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่งามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิต ความเหนื่อยความล้าจากการปีนป่ายมันหายไปหมดตั้งแต่วินาทีที่มองลงไปที่บ่ อนำ้ร้อน หลับตาลืมตาอีกหลายรอบให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป หรือตาฝาดไป มันไม่น่าเชื่อว่าจะมีอะไรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและสวยงามเต็มไปด้วย สีสันสายรุ้งแจ่มจรัสอย่างนี้ ถ่ายรูปเก็บไว้รูปแล้วรูปเล่าและไม่ลืมที่จะถ่ายซำ้ด้วยกล้องโทรศัพท์เอาไว้ โพสต์เฟสบุ้คก่อนนอน กำลังฟินกับภาพข้างหน้าก็ได้ยินเสียงคนคุยกันแว่วๆจากข้างล่าง มองลงไปเห็นคนบ้าสองสามคนกำลังปีนขึ้นมา แต่ละคนแบกกล้องกับเลนส์ขึ้นมาเพียบ พอเห็นฉันก็ทำหน้าตกใจคงนึกว่าแถวนี้มีชะนีด้วยเหรอฟะ อิอิ ยืนฟังหนุ่มๆหายใจเป็นหมาหอบแดดเพราะความเหนื่อยจากการปีนขึ้น รู้สึกสะใจพอแล้วก็ตัดสินใจรูดลงเขา งานนี้รูดจริงๆเพราะร้องเท้าลื่นมาก กว่าจะลงมาถึงพื้นนมแบนเหลือเท่าเห็บหมา ฮาาาาาาาาาา....
    ออกจากเยลโลว์สโตนขับรถลงมาทางประตูใต้ผ่านอุทธยานแกรนด์ ทีทอน อันนี้ก็งามมาก งามแบบหวานๆซึ้งๆ มีทะเลสาป ต้นไม้สวยๆที่ใบกำลังเปลี่ยนสี สีเหลือง สีส้ม สีน้ำตาล ภูเขาสวยๆที่ยอดยังมีหิมะคลุม เหมือนภาพในโปสการ์ดที่เคยเห็นขายในร้านหนังสือบ้านเรา ขับข้ามมาทีเดียว3รัฐ ไอดาโฮ มอนแทน่า ไวโอมิ่ง และย้อนกลับมานอนที่เมืองไอดาโฮ ฟอลส์ วันี้ไม่ได้ทำระยะไกลมาก น่าจะไม่เกิน300ไมล์ หาอะไรแหล่มๆลงท้องตามด้วยBudเบียร์เย็นๆอีกแก้ว ขำๆกันไปอีกหนึ่งวัน
— feeling amused at Shilo Inns.
 











  

No comments:

Post a Comment