แสงแดด
ยามเช้ากระจายไออุ่นผ่านเข้ามาถึงเก้าอี้บุหนังหนานิ่มตัวโตที่ฉันนั่งอยู่
มองออกไปข้างนอกเห็นนกตัวเล็กสองสามตัวจิกกินผลองุ่นที่เถาเลื้อยขึ้นมาถึง
ระเบียงหลังบ้าน
ถัดจากเถาองุ่นเป็นเถากี่วี่กิ่งก้านอวบอ้วนแต่ไม่เคยออกลูกมาใหัเชย
ชมสักครั้งไม่ว่าจะกี่ปีๆที่ฉันแวะเวียนมาดู
จนเขารำ่ๆจะตัดทิ้งไปหลายครั้งแต่ฉันก็ขอร้องเขาไว้โดยให้เหตุผลว่า
"อะไรบางสิ่งบางอย่างเราก็ไม่ได้มีไว้เพื่อใช้ประโยชน์
แค่มีไว้เพื่อให้รู้ว่ามันยังอยู่ณ.จุดนั้น"
เขาทำหน้าแปลกๆขณะรับฟังเหตุผลของฉัน
แต่ก็ยอมล้มเลิกความคิดที่จะตัดเถากี่วี่เถานั้น
ลมพัดเอื่อยๆปะทะกิ่งสนน้อยใหญ่ไหวเอนไปมา
อากาศช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกันยายนในเขตนอร์ทเวสท์ปีนี้ดีกว่าปีก่อนๆ
มาก
แต่ฉันก็ยังสมัครใจที่จะนั่งอยู่ริมหน้าต่างด้านในให้แสงแดดโลมเลียมากกว่า
นั่งข้างนอกให้ไอเย็นมากระทบตัว
อีกไม่กี่วันภาระกิจของฉันที่นี่ก็จะเสร็จสิ้น และฉันก็จะกลับไปสานต่อการงานที่ฉันคงค้างไว้ข้างหลัง ฉันค่อนข้างพึงพอใจกับวิถีการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเลือก มันไม่มีอะไรมั่นคงถาวรทำให้ดีที่สุดและสนุกกับทุกสิ่งที่ทำฉันเฝ้าบอกตัว เองครั้งแล้วครั้งเล่า นึกถึงคำพูดของศิลปินที่ฉันเคารพครั้งหนึ่งท่านเคยพูดไว้ว่า "ถ้ามึงคิดว่ามึงทำไม่ได้หรือมึงจะอดตายแสดงว่ามึงกระจอก ถ้ามึงไม่อยากเป็นคนกระจอกมึงก็ต้องทำให้มันดีๆ" คำสอนนี้ก้องอยู่ในหูฉันทุกครั้งที่ฉันรู้สึกเหนื่อยล้าและไร้แรงใจ
กาแฟอุ่นๆ มุสลี่โยเกิร์ตถ้วยเล็กพร้อมถั่วอบหลายๆชนิดเป็นอาหารกึ่งเช้ากึ่งเที่ยงที่ ฉันชื่นชอบและจัดว่าเป็นโมเม้นท์ส่วนตัวเหมือนเช่นขณะนี้ จนเขาเก็บเอามาล้อว่าฉันเป็นมนุษย์ผู้หญิงที่ถูกที่สุดเท่าที่เขาเคยคบหามา "คุณกินอย่างอื่นบ้างก็ได้นะตัวเล็กผมเลี้ยงคุณไหว" เขาล้อฉันทุกครั้งที่ฉันจับมูสลี่กล่องโตออกมาจากชั้นวางของในซุปเปอร์มา เก็ตขณะที่เราเดินซื้อของด้วยกัน "คุณก็รู้นี่ว่าฉันทำงานฟรีแลนซ์ ต้องอยู่ง่ายกินง่าย" ฉันล้อเขากลับไป แต่ทุกเช้าที่เราอยู่ด้วยกันก็จะมีมูสลี่ถ้วยเล็กกับกาแฟอุ่นๆวางไว้บนโต๊ะ รอฉันเสมอยกเว้นเช้านี้เพราะเขาต้องทำงานช่วงกลางคืน หลายวันก่อนเขากลับมาจากโรงพยาบาลหลังจากงานกะดึกด้วยสีหน้าตื่นเต้น "เมื่อเย็นวานมีหมอคนใหม่มาจากเมืองไทย เธอชื่อริตา ผมต้องเทรนด์งานให้เธอประมาณสามเดือน" จากนั้นเรื่องราวต่างๆของหมอริตาก็ถูกถ่ายทอดมาทุกรายระเอียด "หมอริตาไม่ได้ตัวเล็กๆบางๆเหมือนคุณนะ เธอตัวท้วมๆผมหยิกเต็มหัว ผมคุยเรื่องคุณให้เธอฟังเธอยังอยากจะเจอคุณเลย" ฉันไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่ในใจก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันเพราะฉัน ต้องเดินทางกลับอีกไม่กี่วัน
ฉันใช้เวลาช่วงที่เหลือเก็บกวาดห้องหับให้เขา ผู้ชายที่อยู่ตัวคนเดียวมักจะไม่ค่อยดูแลสถานที่สักเท่าไหร่นักแต่ก็ไม่ได้ ยากอะไรในการเก็บกวาดเพราะแต่ละห้องก็เป็นห้องโล่งๆตามแบบผู้ชาย ย้อนนึกถึงวันก่อนที่เขาขอร้องให้ฉันอยู่ต่ออีกสักพัก "อยู่ต่ออีกสักหน่อยไม่ได้เหรอครับ ผมยังไม่หายคิดถึงคุณเลย แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก ผมอยากบินตามคุณไปเลยแต่ติดอยู่ที่งานผม ทั้งงานสอนที่มหาวิทยาลัยแล้วไหนจะดูแลคนไข้ที่โรงพยาบาลอีก" ฉันยืนกรานที่จะกลับเพราะมีอีกหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่อยากจะทำที่ไทย ดวงตาคู่นั้นดูสลดไปทันใดเมื่อฉันตอบปฏิเสธ
เสียงประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงทักทายเบาๆทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ คนตัวโตปรากฎขึ้นที่มุมห้องด้านหน้า "โวววว... คุณทำความสะอาดห้องให้ผมเหรอ ขอบคุณครับ คุณเหนื่อยมั๊ย คุณไม่ต้องลำบากทำเองก็ได้ ผมมีคนทำความสะอาดชาวแม็คซิกันมาทำให้ทุกๆเดือนอยู่แล้ว" ฉันบอกเขาว่าฉันก็อยากทำอะไรให้เขาบ้าง ทดแทนกับความมีนำ้ใจ ห่วงหา อาทร ที่เขาเคยมีให้กับฉันตลอดมา มือใหญ่แข็งแรงแตะลงมาบนแก้มฉัน "ผมก็อยากดูแลคุณให้มากและนานที่สุดเท่าที่ชีวิตผมมี" ฉันโน้มตัวอิงแอบกับอกกว้างอันแสนจะอบอุ่นคุ้นเคย
อีกไม่กี่วันภาระกิจของฉันที่นี่ก็จะเสร็จสิ้น และฉันก็จะกลับไปสานต่อการงานที่ฉันคงค้างไว้ข้างหลัง ฉันค่อนข้างพึงพอใจกับวิถีการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเลือก มันไม่มีอะไรมั่นคงถาวรทำให้ดีที่สุดและสนุกกับทุกสิ่งที่ทำฉันเฝ้าบอกตัว เองครั้งแล้วครั้งเล่า นึกถึงคำพูดของศิลปินที่ฉันเคารพครั้งหนึ่งท่านเคยพูดไว้ว่า "ถ้ามึงคิดว่ามึงทำไม่ได้หรือมึงจะอดตายแสดงว่ามึงกระจอก ถ้ามึงไม่อยากเป็นคนกระจอกมึงก็ต้องทำให้มันดีๆ" คำสอนนี้ก้องอยู่ในหูฉันทุกครั้งที่ฉันรู้สึกเหนื่อยล้าและไร้แรงใจ
กาแฟอุ่นๆ มุสลี่โยเกิร์ตถ้วยเล็กพร้อมถั่วอบหลายๆชนิดเป็นอาหารกึ่งเช้ากึ่งเที่ยงที่ ฉันชื่นชอบและจัดว่าเป็นโมเม้นท์ส่วนตัวเหมือนเช่นขณะนี้ จนเขาเก็บเอามาล้อว่าฉันเป็นมนุษย์ผู้หญิงที่ถูกที่สุดเท่าที่เขาเคยคบหามา "คุณกินอย่างอื่นบ้างก็ได้นะตัวเล็กผมเลี้ยงคุณไหว" เขาล้อฉันทุกครั้งที่ฉันจับมูสลี่กล่องโตออกมาจากชั้นวางของในซุปเปอร์มา เก็ตขณะที่เราเดินซื้อของด้วยกัน "คุณก็รู้นี่ว่าฉันทำงานฟรีแลนซ์ ต้องอยู่ง่ายกินง่าย" ฉันล้อเขากลับไป แต่ทุกเช้าที่เราอยู่ด้วยกันก็จะมีมูสลี่ถ้วยเล็กกับกาแฟอุ่นๆวางไว้บนโต๊ะ รอฉันเสมอยกเว้นเช้านี้เพราะเขาต้องทำงานช่วงกลางคืน หลายวันก่อนเขากลับมาจากโรงพยาบาลหลังจากงานกะดึกด้วยสีหน้าตื่นเต้น "เมื่อเย็นวานมีหมอคนใหม่มาจากเมืองไทย เธอชื่อริตา ผมต้องเทรนด์งานให้เธอประมาณสามเดือน" จากนั้นเรื่องราวต่างๆของหมอริตาก็ถูกถ่ายทอดมาทุกรายระเอียด "หมอริตาไม่ได้ตัวเล็กๆบางๆเหมือนคุณนะ เธอตัวท้วมๆผมหยิกเต็มหัว ผมคุยเรื่องคุณให้เธอฟังเธอยังอยากจะเจอคุณเลย" ฉันไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่ในใจก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันเพราะฉัน ต้องเดินทางกลับอีกไม่กี่วัน
ฉันใช้เวลาช่วงที่เหลือเก็บกวาดห้องหับให้เขา ผู้ชายที่อยู่ตัวคนเดียวมักจะไม่ค่อยดูแลสถานที่สักเท่าไหร่นักแต่ก็ไม่ได้ ยากอะไรในการเก็บกวาดเพราะแต่ละห้องก็เป็นห้องโล่งๆตามแบบผู้ชาย ย้อนนึกถึงวันก่อนที่เขาขอร้องให้ฉันอยู่ต่ออีกสักพัก "อยู่ต่ออีกสักหน่อยไม่ได้เหรอครับ ผมยังไม่หายคิดถึงคุณเลย แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก ผมอยากบินตามคุณไปเลยแต่ติดอยู่ที่งานผม ทั้งงานสอนที่มหาวิทยาลัยแล้วไหนจะดูแลคนไข้ที่โรงพยาบาลอีก" ฉันยืนกรานที่จะกลับเพราะมีอีกหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่อยากจะทำที่ไทย ดวงตาคู่นั้นดูสลดไปทันใดเมื่อฉันตอบปฏิเสธ
เสียงประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงทักทายเบาๆทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ คนตัวโตปรากฎขึ้นที่มุมห้องด้านหน้า "โวววว... คุณทำความสะอาดห้องให้ผมเหรอ ขอบคุณครับ คุณเหนื่อยมั๊ย คุณไม่ต้องลำบากทำเองก็ได้ ผมมีคนทำความสะอาดชาวแม็คซิกันมาทำให้ทุกๆเดือนอยู่แล้ว" ฉันบอกเขาว่าฉันก็อยากทำอะไรให้เขาบ้าง ทดแทนกับความมีนำ้ใจ ห่วงหา อาทร ที่เขาเคยมีให้กับฉันตลอดมา มือใหญ่แข็งแรงแตะลงมาบนแก้มฉัน "ผมก็อยากดูแลคุณให้มากและนานที่สุดเท่าที่ชีวิตผมมี" ฉันโน้มตัวอิงแอบกับอกกว้างอันแสนจะอบอุ่นคุ้นเคย
No comments:
Post a Comment