Saturday, October 4, 2014

บทที่ห้า

    บทที่ห้า

    เสื้อตัวสุดท้ายถูกเก็บใส่กระเป๋าเดินทางสีดำใบย่อมและหลังจากตรวจสอบจน แน่ใจว่าไม่ได้หลงลืมอะไรไว้ข้างหลังแล้วฉันก็รูดซิบกระเป๋าและลากไปพิงไว้ มุมห้องด้านหนึ่ง อีกหลายชั่วโมงกว่ารถแทกซี่ที่นัดไว้จะมารับฉันไปส่งยังสนามบิน ละอองฝนบางๆปลิวมากระทบหน้าต่างทำให้ทิวทัศน์ข้างนอกดูบิดเบี้ยวตามการหักเห ของแสง วันสีเทาของนอร์ทเวสท์ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่สองคืนก่อนนับจากนี้จนถึง เดือนมีนาคมก็จะมีแต่ฝนและท้องฟ้าสีเทา ฉันทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้บุสีเข้มตัวหนานุ่มที่ทางโรงแรมได้จัดวางไว้ในมุม ที่แสงจากธรรมชาติสามารถสาดเข้ามาได้มากที่สุด โรงแรมที่พักเป็นโรงแรมขนาดใหญ่อยู่ในกลุ่มของสตาร์วูดที่มีโรงแรมชื่อดัง หลายๆโรงแรมร่วมในเครือและมีสาขาอยู่ทั่วโลก ค่าห้องพักสูงลิบหากต้องจ่ายด้วยเงินแต่ลูกค้าส่วนมากก็จะเป็นเมมเบอร์และ ใช้วิธีการสะสมแต้มและเดินทางในรูปแบบของตัวแทนบริษัท เช่นเดียวกับฉันที่เป็นเมมเบอร์มานับสิบปีและจองห้องด้วยการใช้ชื่อบริษัท เล็กๆที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่บวกกับใช้แต้มสะสมที่มีอยู่มาเป็นส่วนจ่าย กว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ ฉันเลือกที่นี่เพราะอยู่กลางเมืองสะดวกสำหรับงานที่มาติดต่อและเดินเที่ยวใน ช่วงเวลาที่เหลือ จากสภาพอากาศขณะนี้ฉันตัดสินใจที่จะไม่ออกไปเดินเล่นรอเวลาขึ้นเครื่อง เหมือนที่คิดเอาไว้แต่แรก ละอองฝนเย็นๆบรรยากาศมัวๆมันไม่ใช่สิ่งที่ฉันโปรดปรานนัก
    ฉันหยิบไอแพดขึ้นมาคิดว่าจะร่างงานที่ต้องสะสางในวันรุ่งขึ้นที่ไทยแต่ฉันก็ ขี้เกียจเกินกว่าจะทำงานใดๆได้ นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ ไออุ่นของคนตัวใหญ่ยังกรุ่นๆอยู่แนบกายฉัน ในอุ้งจมูกยังได้กลิ่นของดอกลาเวนเดอร์ในสวนหลังบ้านเขา หูยังได้ยินเสียงแว่วๆถึงบทลาจาก "ผมคงคิดถึงคุณมากถ้าคุณกลับไป" ฉันเกลียดการลาจาก ฉันเกลียดการพิรี้พิไรที่สนามบิน ฉันไม่ใช่ฮีโร่ในเรื่องของการควบคุมความรู้สึก ฉันดีใจที่เขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับฉัน "หมอคนใหม่ขอร้องให้ผมช่วยหาที่พักให้ อพาร์ทเมนต์ที่ไปติดต่อไว้เขานัดดูห้องในวันเดียวกับที่คุณบินกลับ ผมส่งคุณที่สนามบินเสร็จผมจะไปรับหมอริตาและเลยไปดูกัน" ฉันปฏิเสธข้อเสนอและขอให้เขาตรงไปรับหมอริตาส่วนฉันสะดวกมากกว่าที่จะเรียก แท็กซี่และจากลาไปอย่างเงียบๆเพียงลำพัง ย้อนนึกไปถึงความสัมพันธ์ของฉันกับเขาอีกครั้ง ความรู้สึกที่ลึกซึ้งเหนียวแน่นแต่ก็แฝงไปด้วยเส้นใยอันเปราะบางที่เสมือน กับพร้อมจะขาดสะบั้นได้ในทุกๆวินาทีและก็พร้อมที่จะกลับมาหล่อหลอมเป็นเนื้อ เดียวกันอีกในเวลาชั่วพริบตา ภาพของคนตัวโตเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับกล่องสีขาวใบใหญ่ในมือเมื่อหลายวัน ก่อน รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าพร้อมกับดวงตาพราวระยับเหมือนกับมีดาวนับร้อยดวงกำลัง เต้นระบำอยู่ในนั้น "Happy birthday" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นกล่องใบนั้นมาให้ฉัน กล่องที่ประทับตราร้านเบเกอร์รี่ชื่อดังในเมืองนี้ ฉันพูดขอบคุณเขาเบาๆและบรรจงวางกล่องลงบนโต๊ะ แกะฝาด้านบนกล่องออกช้าๆเผยให้เห็นเนื้อใน เค้กช้อคโกแลตก้อนโตมีดอกไม้สดแสนสวยวางประดับอยู่บนหน้าเป็นดอกไม้ที่ฉัน เคยพูดไว้คราวที่เราเดินเล่นด้วยกันกลางทุ่งหญ้าที่ไหนซักแห่งว่ามันเหมาะสม จะอยู่บนเค้กช้อกโกแลตมากกว่าอยู่กลางทุ่งหญ้าแห่งนั้น ฉันอดตื้นตันในความใส่ใจของเขาไม่ได้ซึ่งแม้แต่ตัวฉันเองบางครั้งก็ลืมแม้ กระทั่งวันเกิดตัวเองหรือไม่ก็พยายามเลี่ยงไม่ใส่ใจ
    นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเตือนเวลาที่รถจะมารับไปสนาม บิน ฉันตรวจเช็คดูข้าวของอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูส่งกระเป๋าให้พนักงานที่ยืนรอ อยู่แล้วนำกระเป๋าลงไปชั้นล่างและจัดเก็บให้เรียบร้อยในรถแท็กซี่คันที่รอ อยู่ ใช้เวลาอีกไม่กี่นาทีสำหรับการเช็คเอาท์ทุกอย่างก็เสร็จสิ้น รถเคลื่อนออกไปช้าๆฉันทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง บรรยากาศมัวๆ ฝนปรอยๆ กลิ่นลาเวนเดอร์กรุ่นๆ และ เขา....


No comments:

Post a Comment