September 20th Day 15 : Thamel - Gaushala
ฝนตกปรอยๆเมื่อฉันก้าวออกจากที่พัก ดึงฮู้ดเสื้อขึ้นคลุมศีรษะแล้วก้าวยาวๆผ่านร้านรวงที่กำลังจะเปิด แวะร้านกาแฟตรงหัวมุมถนนสั่งกาแฟร้อนใส่ถ้วยกระดาษแล้วเดินถือไป หนุ่มร้านกาแฟเจ้าประจำเห็นฉันเดินผ่านและถือถ้วยกาแฟจากร้านอื่นก็ทำหน้าขำๆใส่ "กาแฟอร่อยมั้ย เบื่อเนสกาแฟของฉันแล้วสินะ" เขาเย้า ฉันเดินไปหาเขายิ้มๆใส่แล้วคุยกันต่อเรื่องนั้นเรื่องนี้ก่อนจะเดินไปหาแท็กซี่ ฝนตกฉันขี้เกียจเดินไปป้ายรถเมล์บวกกับคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วว่าคงไหว แท็กซี่สภาพเก่าที่ไม่น่าจะวิ่งได้พาฉันมุ่งหน้าไปวัดฮินดู วัดPashupatinath วัดที่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมที่มีอยู่ ที่จริงวัดนี้อยู่ไม่ไกลจากBoudhanathที่ไปมาเมื่อวานนี้ เดินหากันได้ แต่ก็ไม่ได้นึกถึงและนึกที่จะไป รถแท็กซี่จอดส่งแค่ถนนใหญ่จึงต้องเดินต่อไปเรื่อยๆตามทางเล็กๆ ตามรายทางมีผู้คนขายดอกไม้บูชา เครื่องรางต่างๆ ผงซินดูว์สำหรับเจิมหน้าผากสีเข้มบ้างอ่อนบ้างต่างกันไป ร้านรายทางมีเยอะมากร้านติดร้านจนฉันแอบสงสัยไม่ได้ว่าเขาได้ขายกันทุกร้านไหม ผ่านเข้าเขตวัดมีฝูงนกพิราบหลายร้อยตัวกำลังจิกกินอาหารที่ผู้คนโปรยให้ พอคนโปรยอาหารทีนกก็บินฮือตามอาหารทีจนฉันต้องรีบปิดจมูกปิดปากวิ่งผ่านเขตนั้นเพราะทั้งฝุ่นทั้งขนนกปลิวว่อนทั้งบริเวณ เดินไปจนถึงจุดซื้อตั๋วเหตุการณ์ปรกติก็เกิดขึ้น หนุ่มตาคมตามประกบอาสาจะเป็นไกด์ให้และราคาไม่แพง ฉันบอกปฏิเสธไปเพราะหนึ่งไม่มีตังจ่าย สองอยากจะใช้เวลาอยู่คนเดียว
จ่ายค่าค่าตั๋วหนึ่งพันรูปีแล้วก็เดินดูจุดต่างๆของวัด มีหลายจุดที่เขาไม่ให้คนนอกศาสนาเข้าก็ได้แต่แอบสงสัยว่าข้างในจะเป็นอย่างไร บริเวณวัดลึกลับวนเวียนเหมือนเขาวงกต เดินเกือบครึ่งชั่วโมงก็ยังหาทางออกไม่ได้ก็เลยตัดสินใจเดินขึ้นไปบนเขาด้านหลัง มองลงมาเห็นแม่น้ำBagmati สะพาน จดจำทิศทางไว้แล้วลงมาเดินาทางออกจนเจอ เสียงสวดมนต์ดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อเดินใกล้ถึงแม่น้ำ หนุ่มตาคมอีกคนตามเข้ามาประกบแล้วชวนคุยและชี้ทางเดิน เขาเดินพาฉันขึ้นไปทางด้านหลังกำแพงใหญ่ ใกล้แม่น้ำแล้วชี้มือลงไปริมแม่น้ำข้างล่างห่างจากจุดที่ยืนไม่กี่เมตร กองฟืนสลับกับกองฟางวางสุมไว้ด้านบนสุดทับไว้ด้วยผ้าสีเหลืองลายฮินดู ศพพันด้วยผ้าสีเหลืองเปิดแค่บริเวณใบหน้าถูกวางไว้ข้างบน คิ้วเข้มของศพตัดกับผิวซีดขาวมันคงจะอยู่ในความทรงจำฉันไปอีกนาน ยกมือไหว้ศพแล้วเดินออกมาจากจุดนั้นพร้อมกับบอกลาหนุ่มตาคม
เดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งที่เป็นฝั่งพิธีกรรม ลัดเลาะริมฝั่งไปเรื่อยๆจนถึงจุดสูงสุดแล้วนั่งลงกับพื้น ฉันอยู่ฝั่งพิธีกรรมและฝั่งตรงข้ามก็คือฝั่งเผาศพ ทิศเหนือสะพานเป็นจุดชำระล้างทำความสะอาจครั้งสุดท้าย ศพจะถูกหามลงมาจากฝั่งจนเท้าศพแตะน้ำจากแม่น้ำBagmatiแม่น้ำศักดิ์สิทธ์แล้วทิ้งไว้สิบกว่านาที ระหวางนั้นก็จะมีการสวดมนต์ จุดธูป จุดเทียน จากนั้นศพก็จะถูกหามไปทิศใต้สะพานเพื่อทำการเผา ศพต่อไปก็ถูกลำเลียงมาทำพิธีอาบน้ำต่อไป เสร็จพิธีก็เคลื่อนไปเผา ศพแล้วศพเล่า ศพแล้วศพเล่า เสียงพิธีเคลื่อนศพจากท่าน้ำไปเชิงตะกอน เสียงร่ำไห้ของญาติ เสียงระฆัง เสียงฟืนแตก กลิ่นรูป กลิ่นไหม้ของเนื้อหนังมนุษย์ ควันไฟที่ลอยขึ้นมากองแล้วกองเล่า ฉันไม่รู้ตัวว่าเริ่มร้องไห้ตอนไหนรู้แต่ว่ามันเป็นการร้องไห้ที่หนักหน่วงที่สุด ก้อนแข็งจุกอยู่ที่บริเวณคอหอย น้ำตาไหลพรากไม่ยอมหยุดนับชั่วโมง ความเครียด ความเหนื่อย ความโกรธ ความอัดอั้นตันใจที่สะสมมานานละลายหายไปกับน้ำตา ฉันนั่งอยู่ตรงนั้น บนเนินหินสูง ปลดปล่อยอารมณ์ให้ไหลไปกับสายน้ำBagmati นั่งมองเห็นสัจธรรมใกล้แค่มือเอื้อม สัจธรรมที่รู้มานานแล้วแต่พยายามจะเลี่ยงไม่นึกถึง สัจธรรมที่เคยเห็นมาแล้วที่ใกล้แม่น้ำคงคาที่เมืองพาราณสีปีก่อนแต่มันไม่ได้ปลดปล่อยอีโมชั่นของฉันมากมายขนาดนี้ วันนี้ทั้งวันถ้าฉันนึกถึงไปถึงภาพริมแม่น้ำBagmatiตาฉันก็ยังอุ่นๆอยู่
ใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่ที่วัดPashupatinath ถ่ายรูปBabaหลายท่านที่นั่งนอนอยู่เป็นจุดๆในบริเวณวัด Babaเนปาลไม่แต่งตัวแต่งหน้าและไว้ผมหลุดโลกเหมือนBabaที่อินเดีย พวกเขาก็สงบกว่า และไม่เรียกร้องอะไร ฉันถ่ายรูปเสร็จก็ส่งเงินให้ทุกท่านคนละเล็กละน้อย พวกเขาสนใจฉัน พยายามคุยถามว่ามาจากไหน มากี่คน มากี่วัน เด็กๆเนปาลมายืนมุงดูฉันคุยกับBabaแล้วหัวเราะกันคิกคัก เดินออกจากวัดมาเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งไปห้างสรรพสินค้า ปลอบใจตัวเองด้วยเนปาลอีกหนึ่งเรื่อง เรื่องนี้สนุกมีเต้นกันกระจาย ฉากรัก ฉากบู๊ ฉากเศร้า ครบรส การดูหนังของโรงนี้แบ่งออกเป็นสองช่วงคือดูครึ่งหนึ่งแล้วพักสิบนาทีแล้วดูต่อครึ่งที่เหลือ กรอนจะกลับที่พักแวะซื้อเครื่องเทศและเครื่องปรุงหลายอย่าง รวมไปถึงข้าวบาสมาติอีกสองสามถุง กลับไปเชียงรายจะลองทำอาหารเนปาลดู คงสนุก
ปิดท้ายเย็นนี้ด้วยอาหารธิเบต กินเสร็จแล้วก็ไม่แน่ใจว่าอร่อยหรือเปล่าเพราะไม่เคยกินอาหารธิเบตมาก่อนนอกจากMomo สั่งอาหารมาเป็นชุดเพราะอยากจะลองหลายๆอย่าง มีข้าวสวย ----- ชื่อจะมาเขียนทีหลัง ขี้เกียจหา----- สั่งButter tea มาชิมหนึ่งถ้วย ชาที่ชงกับไขมันของจามรีแล้วใส่เกลือไปหน่อย จิบชิมแล้วก็ไม่แน่ใจว่าอร่อยไหม แต่ที่รู่สึกแต่ๆคือดื่ม/กินอาหารเย็นแล้วรู้สึกว่าร้อนมาก คงเป็นเพราะในอาหารมีปริมาณไขมันสูงทำให้ร่างกายอบอุ่น ทำให้พวกเขาสู้กับอากาศหนาวได้
ฉันร้องไห้ ฉันหัวเราะ
โลกกว้าง ทางไกล
สุดท้าย... ฉันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
No comments:
Post a Comment