Namaste Day 9
Varanasi
เสน่ห์ของพาราณสีมีมากพอที่ทำให้ฉันตัดสินใจอยู่ต่ออีกและมันก็หมายความว่าเวลาที่จะมีให้เดลีนั้นสั้นลงตามไปด้วย แต่พาราณสียังมีอีกสองสามอย่างที่ฉันอยากสัมผัส ช่วงเช้าฉันเดินจากท่านำ้นั้นไปท่าน้ำนี้ดูวิถีชีวิตของผู้คนริมแม่นำ้คงคา อาบน้ำ ลอยกระทงเทียน ล่องเรือชมท่าน้ำ บริการโกนหนวด นักบุญหลายสิบคนก็สวดมนต์ฮึมฮัมกันไป ฉันเดินจนมาจบที่ท่าน้ำเผาศพอีกครั้ง ชายสองสามคนโกยขี้เถ้าและเศษสิ่งที่เหลือจากการเผาไหม้ลงไปในแม่น้ำ ปรับพื้นทรายให้เรียบแล้ววางกองฟืนขึ้นสามสี่ชั้นก่อนจะวางศพลงไปแล้วตามด้วยกองฟืนอีกหลายชั้น ศพแล้วศพเล่าที่พวกเขาเผา วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า ว่ากันว่าไฟเผาศพริมแม่น้ำคงคาไม่เคยดับมานานนับพันปีเลยทีเดียว
จากท่าน้ำฉันเดินย้อนออกมาถนนใหญ่หาริกชอว์เพื่อไปสารนาถ ซึ่งเป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่สาม (หนึ่งในสี่ของชาวพุทธ) สารนาถหรือที่รู้จักกันดีว่าอิสิปตนมฤคทายวันอยู่ห่างจากเมืองพาราณสีไปทางเหนือประมาณสิบกิโลเมตร เหตุที่ได้ชื่อว่าสารนาถ เนื่องมาจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา เริ่มต้นประกาศพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นที่พึ่งแก่มหาชนทั้งหลาย และบ้างก็ว่ามาจากศัพท์ว่า สารงฺค + นารถ = ที่อยู่ของสัตว์จำพวกกวาง เส้นทางไปสารนาถก็ขับย้อนกลับไปทางที่เคยผ่านมาแล้วจากสนามบินและสถานีรถไฟแล้วข้ามแม่น้ำวรุณะ หนทางเต็มไปด้วยฝุ่นควัน หลายๆครั้งต้องขับหลบพาหนะของพระศิวะหลายๆตัวที่นอนกันอยู่กลางถนน ฉันควักหน้ากากอนามัยที่พร้อมกับแว่นกันแดดโตมาใส่ ปัจจัยสำคัญที่เตรียมไว้สำหรับสถานการณ์แบบนี้มาโดยเฉพาะ ระยะทางไม่ได้ไกลนักแต่เพราะทางลำบากก็เลยใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วโมง ฉันแอบรู้สึกตื่นเต้นเมื่อมาถึงอิสิปตนมฤคทายวัน จำได้ว่าตอนเรียนชั้นประถมใช้เวลาอยู่นานกว่าจะพูดชื่อนี้ได้ วิชาพระพุทธศาสนาที่เรียนมาก็กล่าวถึงสถานที่นี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ออกข้อสิบมาก็หลายข้อหลายชั้นเรียน วันนี้ได้มาให้เห็นกับตา บัตรผ่านประตูราคาสองร้อยรูปีแต่ฉันยื่นพาสปอร์ตไทยให้เจ้าหน้าที่ เขามองมาที่พาสปอร์ตฉันแล้วบอกว่าสองร้อยรูปี ฉันมองตรงไปในตาของเขาและย้ำกับเขาว่าฉันเป็นคนไทย ส่ายหัวยึกยักสองทีเขาก็ฉีกตั๋วส่งมาให้ราคาสิบห้ารูปี รับตั๋วมาพร้อมยื่นเงินให้เขาสิบห้ารูปีแล้วเดินออกมา การเดินทางสอนให้ฉันเตรียมตัวให้พร้อม ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญและข้อมูลต้องมีการอัพเดท ฉันไม่เคยเชื่อข้อมูลในหนังสือที่มีอายุนานกว่าหกเดือน ข้อมูลจากคนที่เคยไปมาเมื่อหลายปีก่อน ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ฉันแค่เอาข้อมูลเหล่านั้นมารวมกันและประมวลกับข้อมูลปัจจุบันและประสบการณ์ของตัวเอง สถานที่แต่ละที่ในอินเดียหากมีการเก็บค่าตั๋วจะมีสองราคา ราคาคนอินเดีย และราคาคนต่างชาติ ไทยและอินเดียมีข้อตกลงร่วมกันอยู่หลายข้อซึ่งฉันก็ไม่รู้ทั้งหมดแต่พอจะรู้บ้างว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆที่คนไทยสามารถซื้อตั๋วได้ในราคาคนอินเดีย พนักงานเช็คตั๋วตรงประตูเข้าทำหน้างงๆเมื่อฉันยื่นตั๋วสีขาวให้เขาซึ่งเป็นตั๋วคนอินเดีย และทำท่าจะกันฉันไม่ให้เข้า ฉันบอกกับเขาว่าเป็นคนไทย นี่ก็แสดงว่าคงมีคนไทยหลายๆคนเสียเงินราคานักท่องเที่ยวที่อิสิปตนมฤคทายวัน ด้านในสงบเงียบสมเป็นปูชนียสถาน แดดจัดทำให้ฉันเดินแค่ให้ผ่านซากปรักหักพังของเจดีย์แบบเร็วๆ มาหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้และนั่งทำใจสงบนิ่งอยู่ใต้ต้นไม้สิบนาที ฉันมาถึงแล้วดินแดนของพระพุทธเจ้า
นั่งริกชอว์กลับเข้ามาริมแม่น้ำคงคา ระหว่างทางเดินกลับที่พักแวะซื้อเสื้อผ้าใหม่ เสื้อที่เอามาจากบ้านใส่เสร็จแล้วมีหลายตัวต้องทิ้งไปเพราะฝุ่นควันเกาะซักไม่ออก จากเสื้อสีขาวกลายเป็นสีครีมและหลังจากพยายามซักแล้วฉันก็ยอมแพ้ก็เลยใส่แล้วทิ้ง ไม่ได้เสียดายอะไรเพราะเป็นเสื้อราคาถูก ดีเหมือนกันไม่ต้องแบกกลับให้เมื่อยหลัง เดินผ่านพ่อค้าขายน้ำทับทิมเห็นเขากำลังนั่งแกะทับทิมสีแดงช้ำน่ากินก็เลยซื้อชิมหนึ่งแก้ว ทับทิมลูกเล็กๆแต่ข้างในสีสวย แกะเมล็ดออกมาแล้วเอาใส่ไปในเครื่องคั้นได้น้ำทับทิมสีสวยออกหนึ่งแก้ว เดินฮัมเพลงที่ตัวเองคิดว่าเป็นเพลงฮินดีหาทางกลับที่พัก วันนี้นอกจากจะมีแพะ วัว คน จักรยาน มอเตอร์ไซค์ โยคี บาบู แล้วก็ยังมีลิงอีกหลายตัวเดินสวนกันไปมา ไม่ได้รีบร้อนอะไรก็แวะจิบจัยบ้าง กินนานกับแกงถั่วตามข้างทางบ้างสบายใจอินดี้ เดินผ่านไปมาบ่อยๆจนคนชักจะจำหน้าได้ เสียงทักทายมีมาเป็นระยะๆ นามัสเต นามัสเต บาบูหรือนักบวชที่นั่งรอรับทานริมทางถึงกับกล้าเอ่ยปากแซวฉัน "วันนี้ไม่ถ่ายรูปบาบูเหรอ สิบรูปีเอง"
ก่อนค่ำออกไปริมท่าน้ำอีกรอบโดยมีหนุ่มน้อยหน้าตาดีตามมาตั้งแต่ออกจากที่พัก เริ่มคิดเข้าข้างตัวเองว่าเนื้อหอมชะมัดตั้งแต่มาอินเดีย พูดไปแล้วหนุ่มอินเดียก็แปลกไม่ใช่เล่น บางครั้งฉันคิดว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ ขายของ พาไปร้านโน้นร้านนี้เพื่อเอาค่าคอมมิชชั่น แค่อยากเป็นเพื่อนด้วย หรืออื่นๆ เดาไม่ถูกเลยจริงๆ บางครั้งนึกว่าเขามาคุยด้วยเฉยๆแต่กลับกลายเป็นมาหาผลประโยชน์ บางครั้งฉันคิดว่าเขาจะมาขายโน่นนี่นั่นให้กลับกลายเป็นว่าแค่มาคุยด้วยและเดินเป็นเพื่อน มีอยู่คนหนึ่งหลังจากเดินเป็นเพื่อนได้เกือบครึ่งชั่วโมงก็ชวนไปดื่มชา พอฉันบอกว่าดื่มมาแล้วเขาก็เปลี่ยนแนวเป็นชวนไปกินข้าว ฉันบอกว่ากินมาแล้วเหมือนกันเขาก็ชวนไปนั่งรับลมบนชั้นดาดฟ้าร้านอาหารเพื่อนเขา ฉันบอกไม่อยากไปเขาก็บอกว่างั้นไปทำอย่างอื่นก็ได้ไหนๆเธอก็มาถึงอินเดียแล้ว ลองอินเดียละยัง? เออออถามกันหน้าซื่อๆตาใสๆไม่มีเจตนาทำให้โกรธ คนอะไร ประเทศอะไรน่ารักจัง นี่ยังไม่รวมไปถึงร้านที่ขายลาสซี่ที่มีข้อเสนอพิเศษบริการเสริมลาสซี่มาลีฮวนน่า บุหรี่ยัดใส้และอื่นๆอีกมากมาย
หนึ่งทุ่มตรงไปยืนเบียดคนนับพันเพื่อร่วมพิธีบูชาไฟริมแม่น้ำคงคา พิธีกรรมคืนนี้ย้ายจากดาดฟ้าลงมาบนหาดเพราะระดับน้ำลดลงมากนับเป็นโชคดีของฉันที่ได้เห็นพิธีกรรมใกล้ๆ แต่ก็เกือบเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่เพราะคนเยอะเหลือเกิน เบียดเสียดกันจนฉันหายใจไม่ออกและสุดท้ายก็ยอมแพ้เดินแทรกผู้คนออกมายืนหอบอยู่บนถนน เดินย้อนออกมาหาวิธีส่งท้ายพาราณสี ใจคิดไปถึงเบียร์สักขวดแต่หาซื้อยากมากแม้แต่ในร้านอาหารก็ไม่มีขาย ชีวิตสุวรรณีน้อยนอกจากจะไม่ได้ลิ้มรสเนื้อสัตว์มาก็หลายวันแล้ว คืนนี้อยากลิ้มรสเบียร์ก็หาซื้อไม่ได้อีก.... Incredible India!
No comments:
Post a Comment