Incredible India
Namaste Day 2
Bangkok - New Delhi
เย็นวานหนึ่งชั่วโมงบินสิงห์โตจากเชียงราย ฉันก็มาถึงสนามบินดอนเมือง กระโดดขึ้น free shuttle bus ไม่ถึงชั่วโมงฉันก็มาเดินเตร่อยู่สนามบินสุวรรณภูมิ วางแผนล่วงหน้าแล้วว่าจะไม่ยอมเสียเงินค่าโรงแรม อดทนหาที่เงียบๆนั่งนอนเอนหลังพอได้งีบบ้าง หลับนกที่สนามบินยังคงเป็นกิจกรรมที่ฉันทำสม่ำเสมอตั้งแต่อายุยี่สิบกว่าๆจนถึงวันนี้ ตีสามเคาร์เตอร์สายการบินเปิดฉันจัดการเช็คอิน เป้ใบเล็กที่แบกมาทำให้อะไรๆง่ายขึ้นมาก เสื้อสองสามตัว กางเกงหนึ่งตัว ของใช้ส่วนตัวอีกเล็กน้อย ยาแก้ไข้ ยาแก้ท้องเสีย กล้องถ่ายรูปตัวเล็กพร้อมเลนส์เสริมอีกหนึ่งอันคงพอให้เก็บรูปสวยๆได้บ้าง ใจแอบเสียดายที่ไม่เอากล้องตัวใหญ่ไปด้วย แต่อินเดียอันตรายเกินไปสำหรับผู้หญิงเดินทางคนเดียวพร้อมกล้องถ่ายรูปราคาสูง มีเวลากว่าสามชั่วโมงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ฉันพกบัตรสมาชิกคิงเพาเวอร์มาด้วยจึงเข้าไปใช้สิทธ์ ยื่นพาสปอร์ต บอร์ดดิ้งพาสพร้อมกับบัตรสมาชิกให้พนักงานหน้าเลาจ์ พนักงานสาวสวยเช็คข้อมูลในระบบแล้วยิ้มสวยให้ฉันพร้อมกับบอกว่า "อีกสองวันจะถึงวันเกิดคุณผู้โดยสารนะคะ คิงเพาเวอร์จะอัพเกรดเลาจ์ให้คุณผู้โดยสารเป็นแพลตตินั่มเลาจ์คะ" โหหหหห...ชีวิตฉันหรูหราขึ้นมาทันตาเห็น อาหารในแพลตตินั่มเลาจ์ดีกว่าเลาจ์ธรรมดามาก ชา กาแฟ ไวน์ และค็อกเทลไวท์แองเจิ้ลสำหรับวันเกิดล่วงหน้าของฉันก็ตามมาทำเอาลืมใช้บริการห้องอาบนำ้ไปเลย ชีวิตดี๊ดี ขอบคุณคิงเพาเวอร์ที่เอ็นดูสุวรรณีน้อย ถ้าขากลับแล้วพอมีเงินเหลือจะอุดหนุนกระเป๋าCoachซักใบ
สามชั่วโมงครึ่งกับการบินไทย ฉันก็มาถึงสนามบินอินทิราคานธี เวลาที่นี่ช้ากว่าไทยหนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาที อี วีซ่าที่ขอออนไลน์มาล่วงหน้าแล้วเมื่อเดือนก่อนใช้ได้ผลและง่ายดายมาก แค่มาแสกนนิ้วมือเมื่อมาถึงก็เสร็จเรียบร้อย เจ้าพนักงานไม่ถามซักคำว่ามาทำอะไร พักที่ไหนหรือจะอยู่กี่วัน แวะแลกเงินก่อนจะออกมามองหาป้ายชื่อตัวเองที่ทางโรงแรมที่จองไว้จัดเตรียมรถมารับ หาเท่าไหร่ก็มาไม่เจอจึงตัดสินใจโทรไปโรงแรม พนักงานโรงแรมบอกว่าคนขับกำลังอยู่ระหว่างทาง ฉันนึกขอบคุณตัวเองว่ารอบคอบดีที่ซื้อsim2flyมาจากกรุงเทพเมื่อคืน ถึงแม้จะหมดไปเกือบพันบาทแต่มันก็มีประโยชน์และจำเป็นสำหรับการเดินทางรวมถึงติดตามงานที่ครัวน้อย
รถคันเล็กที่มีระบบสั่นสะเทือนน่าจะเกินสี่ห้าริกเตอร์พร้อมคนขับในชุดสีมอๆพาฉันข้ามมาอีกฝั่งของเมือง เสียงแตรรถ เสียงเร่งเครื่องรถตุ๊กๆ เสียงคนตะโกนขายของริมทาง กลิ่นควันรถ กลิ่นฉี่ กลิ่นขยะ สารพัดกลิ่นโชยเข้าจมูกเพราะหน้าต่างรถเปิดทั้งสี่บาน ไอร้อนคลืบคลานไปทั่วทุกอณูของร่างกาย เหงื่อเริ่มซึมหน้าผาก ฉันเปิดกระเป๋าควักแว่นกันแดดอันใหญ่ออกมาใส่ คนขับรถมองผ่านกระจกดูฉันแล้วทำท่ากระตุกที่มุมปาก ฉันคิดในใจ "ไม่ได้กินกุหรอกร้อนแค่นี้ กุฝึกมาดี ลองไปนอนตูบน้อยกุดิ ร้อนกว่านี้อีก ชีวิตกุผ่านมาเยอะ หุหุ"
โรงแรมเล็กๆที่จองไว้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเพื่อความสะดวกในการเดินทางในวันพรุ่งนี้โรงแรมอยู่ใกล้กับเมนบาร์ซ่าทำให้หาของกินง่าย ทุกครั้งที่ฉันเดินออกไปจากโรงแรมก็ได้แต่ลุ้นว่าจะหาทางกลับมาได้หรือเปล่าเพราะตรอกเล็กซอกน้อยเยอะมากจนนึกไปถึงโพรงปลวก ฉันใช้เวลากว่าสามชั่วโมงเดินทะลุตรอกโน้นตรอกนี้ บางตาอกแทบต้องเอียงตัวเดินเพราะแคบมากจริงๆ ตรอกใหญ่หน่อยก็จะมีมอเตอร์ไซค์วิ่งสวนไปมาพร้อมบีบแตรลั่น เดินๆไปก็ต้องคอยหลบกองขี้ไป คนอินเดียเป็นคนเปิดเผย ขี้เยี่ยวกันให้เห็นๆ ฮิปสเตอร์จริงๆ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่ฉันถวิลหากลับมาเต็มๆ ภาพฉันแบกเป้ที่อินเดียใต้เมื่อสิบกว่าปีก่อนกลับมาแจ่มชัดอีกครั้งในความทรงจำ
Incredible India!
No comments:
Post a Comment